การป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
การป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือที่เรียกว่า ตลาดสปอต นั้นมีความผันผวนสูง แม้ว่าเราจะเชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่เราถืออยู่ แต่เราก็ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้เลย เครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถ "ป้องกัน" ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้คือ สัญญาฟิวเจอร์ส บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้สัญญาฟิวเจอร์สแบบง่ายๆ เพื่อช่วยประคองพอร์ตโฟลิโอ การปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอสปอตและฟิวเจอร์ส ของคุณ
สัญญาฟิวเจอร์สคืออะไร และเกี่ยวอะไรกับการป้องกันความเสี่ยง
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า สัญญาฟิวเจอร์ส คือข้อตกลงในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในอนาคต ณ ราคาที่ตกลงกันในปัจจุบัน ในบริบทของการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เราใช้สัญญาฟิวเจอร์สเพื่อสร้างสถานะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราถืออยู่จริง
สมมติว่าคุณซื้อบิตคอยน์จำนวนหนึ่งใน ตลาดสปอต (คุณเป็นเจ้าของเหรียญจริง) และคุณกังวลว่าราคาอาจจะตกลงในสัปดาห์หน้า หากคุณเปิดสถานะ "ขาย" (Short) ในสัญญาฟิวเจอร์สในปริมาณที่เท่ากัน เมื่อราคาในตลาดสปอตตกลง คุณจะขาดทุนจากเหรียญที่คุณถือ แต่คุณจะได้กำไรจากสถานะ Short ในฟิวเจอร์ส ซึ่งจะช่วยชดเชยการขาดทุนนั้นได้ นี่คือหลักการพื้นฐานของการ การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในฟิวเจอร์ส Bitcoin: ลดความเสี่ยงจากความผันผวน
การป้องกันความเสี่ยงแบบง่าย: การเฮดจ์บางส่วน (Partial Hedging)
สำหรับนักลงทุนรายย่อย การเฮดจ์เต็มจำนวนอาจซับซ้อนและจำกัดโอกาสในการทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้น ดังนั้น การป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายที่แนะนำคือ "การเฮดจ์บางส่วน" หรือการป้องกันความเสี่ยงเพียงบางส่วนของพอร์ตโฟลิโอสปอตที่คุณถืออยู่
การดำเนินการนี้มีประโยชน์เมื่อ: 1. คุณต้องการถือสินทรัพย์ระยะยาว แต่กังวลกับความผันผวนระยะสั้น 2. คุณต้องการลดความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์สปอตทิ้งไป ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายหรือภาระทางภาษี
ตัวอย่างการคำนวณการเฮดจ์บางส่วน (สมมติว่าเราใช้สัญญาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับสินทรัพย์เดียวกัน):
สมมติว่าคุณถือเหรียญ A จำนวน 100 หน่วย ในตลาดสปอต และคุณต้องการป้องกันความเสี่ยงเพียง 50% ของมูลค่าปัจจุบัน
- **สถานะสปอต:** ถือ Long 100 หน่วย
- **เป้าหมายการป้องกัน:** 50%
- **การดำเนินการในฟิวเจอร์ส:** เปิดสถานะ Short 50 หน่วย
หากราคาเหรียญ A ตกลง 10%
- **ขาดทุนสปอต:** 100 หน่วย * 10% = ขาดทุน 10 หน่วย (ในแง่ของมูลค่า)
- **กำไรฟิวเจอร์ส:** 50 หน่วย * 10% = กำไร 5 หน่วย (ในแง่ของมูลค่า)
ผลลัพธ์สุทธิคือ คุณลดการขาดทุนลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ การทำความเข้าใจ ฟังก์ชันสำคัญของแพลตฟอร์มเทรดที่มือใหม่ควรรู้ จะช่วยให้คุณจัดการสถานะเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อจับจังหวะ
การป้องกันความเสี่ยงไม่ใช่แค่การทำตามสัดส่วนเท่านั้น แต่การจับจังหวะว่าเมื่อใดควรเปิดหรือปิดสถานะเฮดจ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เราสามารถใช้ตัวชี้วัดพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
1. ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
RSI ใช้เพื่อวัดว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
- **การใช้เพื่อเฮดจ์:** หาก RSI สูงกว่า 70 (Overbought) และคุณเชื่อว่าราคากำลังจะย่อตัวลง คุณอาจพิจารณาเปิดสถานะ Short ในฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยง (เฮดจ์) ส่วนที่ถืออยู่
- **การปิดเฮดจ์:** เมื่อ RSI กลับตัวลงมาต่ำกว่า 50 หรือเข้าสู่โซน Oversold คุณอาจพิจารณาปิดสถานะ Short ในฟิวเจอร์ส เพื่อให้พอร์ตสปอตของคุณสามารถทำกำไรได้เต็มที่หากราคาดีดกลับ
2. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่บรรจบ/แยก (MACD)
MACD ช่วยให้เราเห็นโมเมนตัมของราคา และสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม การทำความเข้าใจ การใช้ MACD เพื่อจับจังหวะการเทรด เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
- **การใช้เพื่อเฮดจ์:** หากเส้น MACD ตัดลง (Bearish Crossover) และสัญญาณบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น คุณอาจเปิดสถานะ Short เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลงที่กำลังจะมาถึง
- **การปิดเฮดจ์:** เมื่อเกิด Bullish Crossover (เส้น MACD ตัดขึ้น) อาจเป็นสัญญาณว่าแรงขายเริ่มอ่อนแอลง และถึงเวลาปิดสถานะป้องกันความเสี่ยง
3. แถบโบลลิงเจอร์ (Bollinger Bands)
แถบโบลลิงเจอร์ ช่วยวัดความผันผวนและระบุระดับราคาที่อาจจะ "สุดโต่ง"
- **การใช้เพื่อเฮดจ์:** หากราคาแตะหรือทะลุแถบด้านบน (Upper Band) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก อาจเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีการปรับฐานลงมาสู่ค่าเฉลี่ย คุณสามารถเปิดสถานะ Short เพื่อป้องกันความผันผวนขาลงระยะสั้นได้
การจัดการความเสี่ยงและข้อควรระวัง
แม้ว่าการใช้สัญญาฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยงจะเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณใช้ร่วมกับ เลเวอเรจ
ความเสี่ยงหลักในการป้องกันความเสี่ยง
1. **Basis Risk (ความเสี่ยงจากส่วนต่างราคา):** หากคุณป้องกันความเสี่ยงสินทรัพย์สปอต (เช่น Bitcoin) ด้วยสัญญาฟิวเจอร์สของสินทรัพย์อื่น (เช่น Ethereum) หรือสัญญาฟิวเจอร์สที่มีวันหมดอายุต่างกัน ราคาของทั้งสองอาจไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้การป้องกันความเสี่ยงไม่สมบูรณ์ 2. **การเฮดจ์มากเกินไป (Over-hedging):** หากคุณเปิดสถานะ Short ในฟิวเจอร์สมากเกินไป เมื่อราคาตลาดสปอตปรับตัวขึ้น คุณจะพลาดโอกาสทำกำไรอย่างเต็มที่ เพราะกำไรจากสปอตจะถูกหักล้างด้วยการขาดทุนจากฟิวเจอร์ส 3. **ค่าธรรมเนียมการถือครอง (Funding Rate):** ในสัญญาฟิวเจอร์สแบบ Perpetual (ไม่มีวันหมดอายุ) อาจมีค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายหรือได้รับ ขึ้นอยู่กับว่าตลาดส่วนใหญ่ถือสถานะ Long หรือ Short ค่าธรรมเนียมนี้อาจกัดกินผลกำไรของคุณได้หากคุณถือสถานะป้องกันความเสี่ยงไว้นานเกินไป
ข้อควรระวังทางจิตวิทยา
นักลงทุนมักตกหลุมพรางทางจิตวิทยาเมื่อใช้เครื่องมือที่มีความซับซ้อน:
- **ความโลภ (Greed):** เมื่อตลาดเป็นขาขึ้น นักลงทุนอาจรู้สึกว่าการเฮดจ์เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและปิดสถานะป้องกันความเสี่ยงทั้งหมด ทำให้กลับไปรับความเสี่ยงเต็มที่
- **ความกลัว (Fear):** เมื่อตลาดผันผวนหนัก นักลงทุนอาจเปิดสถานะป้องกันความเสี่ยงมากเกินความจำเป็น (Over-hedging) เพราะกลัวการขาดทุน จนทำให้ไม่สามารถทำกำไรได้เมื่อตลาดกลับตัว
การกำหนดแผนการที่ชัดเจน และการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น Stop-Loss คืออะไร? วิธีตั้งค่าเพื่อป้องกันการขาดทุนในฟิวเจอร์ส สำหรับสถานะฟิวเจอร์สของคุณเป็นสิ่งสำคัญ
ตารางสรุปการตัดสินใจเฮดจ์เบื้องต้น
ตารางนี้แสดงแนวทางการตัดสินใจเปิดหรือปิดสถานะป้องกันความเสี่ยงโดยอิงจากสถานะสปอตที่คุณถืออยู่
สถานการณ์ตลาดสปอต | ตัวชี้วัดหลักที่ใช้ | การดำเนินการในสัญญาฟิวเจอร์ส |
---|---|---|
ราคาดูเหมือนสูงเกินไป (Overbought) | RSI > 70 หรือราคาแตะ Upper Band | เปิดสถานะ Short (ป้องกันความเสี่ยงขาลง) |
ตลาดเริ่มมีสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง | MACD ตัดลง (Bearish Crossover) | เปิดสถานะ Short |
ราคาดูเหมือนต่ำเกินไป (Oversold) | RSI < 30 หรือราคาแตะ Lower Band | ปิดสถานะ Short (ปล่อยให้พอร์ตสปอตทำกำไร) |
ตลาดเริ่มมีสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น | MACD ตัดขึ้น (Bullish Crossover) | ปิดสถานะ Short |
การป้องกันความเสี่ยงด้วย สัญญาฟิวเจอร์ส ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำกำไรมหาศาลจากฟิวเจอร์ส แต่มีไว้เพื่อรักษาความมั่งคั่งในพอร์ตโฟลิโอสปอตของคุณจากความผันผวนที่ไม่คาดคิด หากคุณต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงโดยละเอียด คุณสามารถศึกษา กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อศึกษาเพิ่มเติม หรือดู กลยุทธ์เลเวอเรจในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH: การป้องกันความเสี่ยงและการกำหนดตำแหน่ง สำหรับการใช้ในสินทรัพย์อื่น
ดูเพิ่มเติม (บนไซต์นี้)
- การใช้ MACD เพื่อจับจังหวะการเทรด
- ฟังก์ชันสำคัญของแพลตฟอร์มเทรดที่มือใหม่ควรรู้
- การปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอสปอตและฟิวเจอร์ส
- ตัวอย่างการทำกำไรจากตลาดขาลงด้วยฟิวเจอร์ส
บทความแนะนำ
- กลยุทธ์เลเวอเรจในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH: การป้องกันความเสี่ยงและการกำหนดตำแหน่ง
- การจัดการความเสี่ยงในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคริปโต: แนวคิดและการปฏิบัติ
- เฮดจ์ความเสี่ยงด้วยสัญญาฟิวเจอร์สคริปโตบนแพลตฟอร์มสมัยใหม่
- การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในฟิวเจอร์ส Bitcoin: ลดความเสี่ยงจากความผันผวน
- กฎระเบียบและภาษีจากกำไรสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคริปโตเคอเรนซีในประเทศไทย
Recommended Futures Trading Platforms
Platform | Futures perks & welcome offers | Register / Offer |
---|---|---|
Binance Futures | Up to 125× leverage; vouchers for new users; fee discounts | Sign up on Binance |
Bybit Futures | Inverse & USDT perpetuals; welcome bundle; tiered bonuses | Start on Bybit |
BingX Futures | Copy trading & social; large reward center | Join BingX |
WEEX Futures | Welcome package and deposit bonus | Register at WEEX |
MEXC Futures | Bonuses usable as margin/fees; campaigns and coupons | Join MEXC |
Join Our Community
Follow @startfuturestrading for signals and analysis.