ตัวอย่างการทำกำไรจากตลาดขาลงด้วยฟิวเจอร์ส
ตัวอย่างการทำกำไรจากตลาดขาลงด้วยฟิวเจอร์ส
ตลาดการลงทุนไม่ได้มีแต่ขาขึ้นเสมอไปครับ การที่ราคาของสินทรัพย์ที่เราถืออยู่ เช่น คริปโตเคอร์เรนซี หรือหุ้น ตกลงอย่างต่อเนื่อง หรือที่เราเรียกว่า ตลาดขาลง นั้น เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนหลายคนรู้สึกกังวล หากเราถือสินทรัพย์ไว้ใน ตลาดสปอต (การซื้อขายสินทรัพย์จริง) การขาดทุนอาจเกิดขึ้นได้ง่าย แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจเครื่องมือทางการเงินขั้นสูงอย่าง สัญญาฟิวเจอร์ส ตลาดขาลงก็สามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรได้เช่นกัน บทความนี้จะอธิบายวิธีการทำกำไรจากตลาดขาลงโดยใช้สัญญาฟิวเจอร์ส โดยเน้นที่การใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น และการจัดการความเสี่ยงควบคู่ไปกับการถือครองสินทรัพย์จริง
ทำความเข้าใจตลาดขาลงและการใช้ฟิวเจอร์ส
เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง หมายความว่าราคาของสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในตลาดสปอตในช่วงนี้อาจทำให้มูลค่าพอร์ตลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สัญญาฟิวเจอร์สมีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า "การขายชอร์ต" (Short Selling) ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้เมื่อราคาสินทรัพย์ตกลง
การขายชอร์ตในตลาดฟิวเจอร์ส คือการที่เรา "ยืม" สินทรัพย์มาขายในราคาสูง และตั้งใจจะ "ซื้อคืน" ในราคาที่ต่ำกว่าในอนาคต เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างนั้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำกำไรในตลาดขาลง
การปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอสปอตและฟิวเจอร์ส เป็นแนวคิดที่สำคัญมากในการใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกัน ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงโดยรวม
การป้องกันความเสี่ยงเบื้องต้น (Partial Hedging)
สำหรับนักลงทุนที่ถือสินทรัพย์จำนวนมากในตลาดสปอตและไม่ต้องการขายทิ้งเพราะเชื่อว่าราคาจะกลับมาในระยะยาว การใช้สัญญาฟิวเจอร์สเพื่อลดผลกระทบจากขาลงจึงเป็นทางเลือกที่ดี นี่คือแนวคิดของการ การป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สมมติว่าคุณถือ Bitcoin (BTC) อยู่ 10 หน่วยในตลาดสปอต และคุณคาดว่าราคาจะปรับฐานลง 20% ในสัปดาห์หน้า แต่คุณไม่ต้องการขาย BTC ที่ถืออยู่ คุณสามารถทำการ "เฮดจ์" (Hedge) หรือป้องกันความเสี่ยงได้ดังนี้:
1. **ประเมินสถานการณ์:** คุณถือ BTC 10 หน่วย (มูลค่าปัจจุบันสมมติที่ $50,000 ต่อ BTC) 2. **เปิดสถานะชอร์ต:** คุณเปิดสถานะขายชอร์ตในสัญญาฟิวเจอร์ส BTC จำนวนเท่ากับมูลค่าที่คุณต้องการป้องกัน เช่น คุณอาจเลือกป้องกันความเสี่ยง 50% ของพอร์ตสปอต นั่นคือเปิดชอร์ตเทียบเท่ากับ BTC 5 หน่วย 3. **ผลลัพธ์เมื่อราคาลง:** หากราคา BTC ตกลง 20% (เหลือ $40,000 ต่อ BTC)
* พอร์ตสปอตของคุณจะขาดทุน: (50,000 - 40,000) * 10 หน่วย = ขาดทุน $100,000 * สถานะชอร์ตฟิวเจอร์สของคุณจะได้กำไร: (50,000 - 40,000) * 5 หน่วย = กำไร $50,000 * **ผลสุทธิ:** ขาดทุนสุทธิ $50,000 (ซึ่งน้อยกว่าการไม่ป้องกันความเสี่ยงเลย)
การทำเช่นนี้ช่วยลดการขาดทุนโดยไม่ต้องขายสินทรัพย์จริงออกไป การทำความเข้าใจ กลยุทธ์การเฮดจ์ฟิวเจอร์ส: การจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาคริปโต จะช่วยให้คุณวางแผนได้ดีขึ้น
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อจับจังหวะการเทรดขาลง
การจะเปิดสถานะชอร์ตหรือปิดสถานะป้องกันความเสี่ยงนั้น จำเป็นต้องมีสัญญาณที่ชัดเจน เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานสามารถช่วยเราได้ นี่คือตัวอย่างการใช้ตัวชี้วัดยอดนิยม
1. ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
RSI เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่บอกว่าสินทรัพย์มีการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
- **สัญญาณขาลง:** หาก RSI พุ่งขึ้นไปเหนือระดับ 70 แล้วเริ่มกลับตัวลงมาอย่างรวดเร็ว อาจเป็นสัญญาณว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแอ และอาจมีการกลับตัวลงสู่ตลาดขาลง
2. MACD
MACD (Moving Average Convergence Divergence) ช่วยบ่งชี้ทิศทางและแรงของแนวโน้ม โดยดูจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้นตัดกัน การทำความเข้าใจ การใช้ MACD เพื่อจับจังหวะการเทรด เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
- **สัญญาณขาลง:** เมื่อเส้น MACD ตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal Line (เกิดเป็น "Bearish Crossover") ในขณะที่กราฟอยู่เหนือเส้นศูนย์ อาจเป็นสัญญาณแรกของการเริ่มต้นแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
3. แถบโบลลิงเจอร์ (Bollinger Bands)
แถบโบลลิงเจอร์ ช่วยวัดความผันผวนของราคา โดยมีแถบด้านบนและด้านล่างเป็นตัวกำหนดขอบเขตความเคลื่อนไหว
- **สัญญาณขาลง:** เมื่อราคาวิ่งทะลุหรือแตะขอบบนของแถบโบลลิงเจอร์หลายครั้ง (Overbought) และจากนั้นราคาเริ่มม้วนตัวกลับลงมาอย่างรวดเร็ว อาจบ่งชี้ว่าราคาถูกผลักดันมากเกินไปและกำลังจะเข้าสู่ช่วงย่อตัวหรือขาลง
นักลงทุนควรใช้เครื่องมือเหล่านี้ประกอบกัน และควรศึกษา การใช้ AI ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับสัญญาฟิวเจอร์สคริปโต เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
ตัวอย่างการทำกำไรจากการชอร์ตล้วนๆ
หากคุณไม่ได้ถือสินทรัพย์ในตลาดสปอตเลย คุณสามารถใช้สัญญาฟิวเจอร์สเพื่อทำกำไรจากขาลงได้โดยตรง โดยการเปิดสถานะ "ชอร์ต" (Short)
สมมติว่าคุณวิเคราะห์แล้วว่าเหรียญ A กำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลงอย่างรุนแรง และคุณตัดสินใจใช้เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเพิ่มผลตอบแทน (โปรดระวังเรื่องความเสี่ยง)
ตัวอย่างการคำนวณกำไรจากการชอร์ต (สมมติใช้เลเวอเรจ 5 เท่า และราคาเริ่มต้น $100):
รายการ | ราคาเริ่มต้น ($) | ราคาปิด ($) | ส่วนต่างราคา ($) | กำไร/ขาดทุน (ต่อ 1 สัญญา) |
---|---|---|---|---|
เปิดชอร์ต | 100 | - | - | |
ปิดชอร์ต | - | 80 | 20 | (100 - 80) * สัญญา |
หากคุณเปิดชอร์ต 1 สัญญา (เทียบเท่า 1 หน่วย) ที่ราคา $100 และราคาลงไปที่ $80 คุณจะได้กำไร $20 จากการเคลื่อนไหวนี้ หากคุณใช้เลเวอเรจ 5 เท่า เงินลงทุนของคุณจะถูกคูณกำไร/ขาดทุนด้วย 5 เท่า (แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการถูกบังคับขายหรือ Liquidate ด้วย) การทำความเข้าใจ กลไกการชำระบัญชีฟิวเจอร์ส จึงสำคัญมากก่อนใช้เลเวอเรจ
ข้อควรระวังทางจิตวิทยาและความเสี่ยง
การเทรดในตลาดขาลงด้วยฟิวเจอร์สมีความท้าทายทางจิตวิทยาและทางเทคนิคสูง
1. กับดักทางจิตวิทยา
- **ความโลภเมื่อชอร์ต:** เมื่อตลาดลงต่อเนื่อง นักลงทุนอาจโลภและถือสถานะชอร์ตนานเกินไป จนกระทั่งราคาดีดกลับอย่างรุนแรง (Short Squeeze) ทำให้ขาดทุนหนัก
- **ความกลัวเมื่อตลาดกลับตัว:** เมื่อราคาเริ่มดีดกลับเล็กน้อย นักลงทุนที่ชอร์ตอาจตื่นตระหนกและรีบปิดสถานะโดยไม่ได้วางแผน ทำให้พลาดกำไรที่เหลือ หรือหากไม่ปิด อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนไม่จำกัดหากราคาพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ (ในทางทฤษฎี ฟิวเจอร์สไม่มีเพดานราคาขาขึ้น)
2. ความเสี่ยงหลัก
- **การใช้เลเวอเรจ:** แม้ว่าเลเวอเรจจะเพิ่มกำไรในตลาดขาลง แต่ก็เพิ่มโอกาสในการถูกบังคับขาย (Liquidation) หากราคาเคลื่อนไหวผิดทางเพียงเล็กน้อย การเรียนรู้ ฟังก์ชันสำคัญของแพลตฟอร์มเทรดที่มือใหม่ควรรู้ เพื่อตั้งค่า Stop Loss จึงเป็นสิ่งจำเป็น
- **ค่าธรรมเนียมการกู้ยืม:** ในบางรูปแบบของการชอร์ต (โดยเฉพาะในตลาดสปอต) อาจมีค่าธรรมเนียมการยืมสินทรัพย์ แต่ในสัญญาฟิวเจอร์ส ความเสี่ยงจะมาในรูปของ Margin และ Funding Rate
- **การวิเคราะห์ผิดพลาด:** การคาดการณ์ขาลงผิดพลาด อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนควรศึกษา กลยุทธ์การเฮดจ์ฟิวเจอร์สคริปโต เพื่อจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และไม่ควรเทรดโดยไม่มีการวางแผนการออกที่ชัดเจน
สรุป
การทำกำไรจากตลาดขาลงด้วย สัญญาฟิวเจอร์ส เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากทิศทางราคาที่ลดลง หรือต้องการป้องกันความเสี่ยงให้กับพอร์ต ตลาดสปอต ของตนเอง อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องมือนี้ต้องอาศัยความเข้าใจในตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI, MACD, และ แถบโบลลิงเจอร์ เพื่อจับจังหวะที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักทางจิตวิทยาและการขาดทุนจากเลเวอเรจ
ดูเพิ่มเติม (บนไซต์นี้)
- การป้องกันความเสี่ยงแบบง่ายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- การใช้ MACD เพื่อจับจังหวะการเทรด
- ฟังก์ชันสำคัญของแพลตฟอร์มเทรดที่มือใหม่ควรรู้
- การปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอสปอตและฟิวเจอร์ส
บทความแนะนำ
- [1]
- ป้องกันความเสี่ยง
- คู่มือทีละขั้นตอน: การตั้งค่าบัญชีฟิวเจอร์สใน Binance
- การวิเคราะห์ความผันผวนฟิวเจอร์สด้วย AI เพื่อตัดสินใจซื้อขาย
- การใช้ AI ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับสัญญาฟิวเจอร์สคริปโต
Recommended Futures Trading Platforms
Platform | Futures perks & welcome offers | Register / Offer |
---|---|---|
Binance Futures | Up to 125× leverage; vouchers for new users; fee discounts | Sign up on Binance |
Bybit Futures | Inverse & USDT perpetuals; welcome bundle; tiered bonuses | Start on Bybit |
BingX Futures | Copy trading & social; large reward center | Join BingX |
WEEX Futures | Welcome package and deposit bonus | Register at WEEX |
MEXC Futures | Bonuses usable as margin/fees; campaigns and coupons | Join MEXC |
Join Our Community
Follow @startfuturestrading for signals and analysis.