กลยุทธ์เลเวอเรจในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH: การป้องกันความเสี่ยงและการกำหนดตำแหน่ง

จาก cryptofutures.trading
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

🇹🇭 เริ่มต้นการเทรดคริปโตกับ Binance ประเทศไทย

สมัครผ่าน ลิงก์นี้ เพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมแบบถาวร!

✅ ส่วนลดค่าธรรมเนียม 10% สำหรับ Futures
✅ รองรับการฝากเงินด้วย THB ผ่านบัญชีธนาคาร
✅ แอปมือถือ รองรับภาษาไทย และบริการลูกค้าท้องถิ่น

  1. กลยุทธ์เลเวอเรจในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH: การป้องกันความเสี่ยงและการกำหนดตำแหน่ง

การซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากมันเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจ (Leverage) ในตลาดฟิวเจอร์สอาจเป็นดาบสองคม ที่ทั้งสร้างผลกำไรมหาศาลและเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก ดังนั้น การเข้าใจกลยุทธ์การใช้เลเวอเรจอย่างถูกต้อง รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงและการกำหนดตำแหน่งอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH

---

    1. เลเวอเรจคืออะไรและทำงานอย่างไร?

เลเวอเรจคือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดตำแหน่งซื้อขายที่มีมูลค่ามากกว่าทุนที่คุณมีจริง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีทุน 100 ดอลลาร์ และใช้เลเวอเรจ 10x คุณจะสามารถเปิดตำแหน่งที่มีมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทั้ง 1,000 ดอลลาร์จากกระเป๋าตัวเอง

      1. ตัวอย่างการใช้งานเลเวอเรจ

สมมติว่า ETH ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ และคุณคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ดอลลาร์ หากคุณซื้อ ETH ด้วยเลเวอเรจ 10x และราคาเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ดอลลาร์ตามที่คาดการณ์ไว้ คุณจะทำกำไร 10% ของ 1,500 ดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 150 ดอลลาร์ (หรือ 15% ของทุน 100 ดอลลาร์ของคุณ)

อย่างไรก็ตาม หากราคา ETH ลดลงเป็น 1,450 ดอลลาร์ คุณจะขาดทุน 50 ดอลลาร์ (หรือ 5% ของมูลค่าตำแหน่ง) ซึ่งเท่ากับ 50% ของทุน 100 ดอลลาร์ของคุณ

จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าเลเวอเรจสามารถเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การใช้เลเวอเรจจึงต้องควบคู่ไปกับกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง

---

    1. กลยุทธ์การใช้เลเวอเรจในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH
      1. 1. เริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ

สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ เช่น 2x หรือ 5x เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนรุนแรง แม้ว่าเลเวอเรจต่ำอาจทำให้กำไรน้อยลง แต่ก็ช่วยให้คุณมีโอกาสเรียนรู้และปรับตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับความสูญเสียที่มากเกินไป

      1. 2. กำหนด Stop-Loss และ Take-Profit

การตั้ง Stop-Loss (จุดตัดขาดทุน) และ Take-Profit (จุดรับกำไร) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม คุณสมบัติฟิวเจอร์ส ลงทะเบียน
Binance Futures เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M ลงทะเบียนทันที
Bybit Futures สัญญาถาวรแบบกลับด้าน เริ่มซื้อขาย
BingX Futures การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส เข้าร่วม BingX
Bitget Futures สัญญามาร์จิน USDT เปิดบัญชี

เข้าร่วมชุมชน

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!

🎁 รับโบนัสสูงสุด 5000 USDT ที่ Bitget

ลงทะเบียนที่ Bitget และเริ่มเทรดพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย!

✅ โบนัสต้อนรับสูงสุด 5000 USDT
✅ ซื้อคริปโตด้วยบัตรเครดิต/เดบิต และ Google Pay
✅ อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย รองรับผู้ใช้งานไทย

🤖 บอทสัญญาณคริปโตฟรีบน Telegram — @refobibobot

รับสัญญาณการเทรดทุกวันแบบเรียลไทม์จากบอทอัตโนมัติใน Telegram
เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ!

✅ แจ้งเตือนเร็ว ไม่พลาดจังหวะ
✅ ฟรี 100% และไม่มีโฆษณา
✅ ใช้งานง่าย รองรับมือถือ

📈 Premium Crypto Signals – 100% Free

🚀 Get trading signals from high-ticket private channels of experienced traders — absolutely free.

✅ No fees, no subscriptions, no spam — just register via our BingX partner link.

🔓 No KYC required unless you deposit over 50,000 USDT.

💡 Why is it free? Because when you earn, we earn. You become our referral — your profit is our motivation.

🎯 Winrate: 70.59% — real results from real trades.

We’re not selling signals — we’re helping you win.

Join @refobibobot on Telegram