Stop-Loss Orders

🇹🇭 เริ่มต้นการเทรดคริปโตกับ Binance ประเทศไทย

สมัครผ่าน ลิงก์นี้ เพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมแบบถาวร!

✅ ส่วนลดค่าธรรมเนียม 10% สำหรับ Futures
✅ รองรับการฝากเงินด้วย THB ผ่านบัญชีธนาคาร
✅ แอปมือถือ รองรับภาษาไทย และบริการลูกค้าท้องถิ่น

1. Stop-Loss Orders: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์ฟิวเจอร์สคริปโตมือใหม่

- บทนำ**

การเทรด ฟิวเจอร์สคริปโต เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง โอกาสในการทำกำไรนั้นสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ หนึ่งในเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Stop-Loss Order หรือคำสั่งขายหยุด

บทความนี้จะอธิบาย Stop-Loss Orders อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่ความหมาย, ประเภท, วิธีการตั้งค่า, ข้อดีข้อเสีย, และกลยุทธ์การใช้งานต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- Stop-Loss Order คืออะไร?**

Stop-Loss Order คือ คำสั่งที่ส่งไปยัง Exchange เพื่อขายสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จุดประสงค์หลักคือเพื่อจำกัดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรด หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

ลองจินตนาการว่าคุณซื้อ Bitcoin Futures ที่ราคา $30,000 และคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้น แต่คุณก็ตระหนักดีว่าราคาอาจลดลงได้เช่นกัน หากคุณไม่ตั้ง Stop-Loss Order และราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรวดเร็ว คุณอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก

การตั้ง Stop-Loss Order ที่ $29,000 จะช่วยให้คุณขาย Bitcoin Futures โดยอัตโนมัติเมื่อราคาลดลงถึง $29,000 ซึ่งจะจำกัดความสูญเสียของคุณไว้ที่ $1,000 ต่อสัญญา (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)

- ประเภทของ Stop-Loss Orders**

Stop-Loss Orders มีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ:

**Market Stop-Loss Order:** เป็นคำสั่งที่ขายสินทรัพย์ในราคาตลาดที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้นเมื่อราคาถึงระดับ Stop Price ข้อดีคือมีความแน่นอนในการขาย แต่ข้อเสียคือราคาที่คุณได้รับอาจต่ำกว่าที่คุณคาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
**Limit Stop-Loss Order:** เป็นคำสั่งที่ขายสินทรัพย์ในราคา Limit Price หรือราคาที่ดีกว่าเมื่อราคาถึงระดับ Stop Price ข้อดีคือคุณสามารถกำหนดราคาขั้นต่ำที่คุณต้องการขายได้ แต่ข้อเสียคืออาจไม่สามารถขายได้หากราคาตกลงอย่างรวดเร็วและต่ำกว่า Limit Price
**Trailing Stop-Loss Order:** เป็นคำสั่ง Stop-Loss ที่จะปรับระดับ Stop Price ขึ้นตามราคาที่เพิ่มขึ้น (สำหรับ Long Positions) หรือลงตามราคาที่ลดลง (สำหรับ Short Positions) ข้อดีคือช่วยให้คุณล็อกกำไรและจำกัดความสูญเสียได้ในขณะเดียวกัน เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการติดตามแนวโน้มของราคา
**Time-Based Stop-Loss Order:** เป็นคำสั่ง Stop-Loss ที่จะถูกยกเลิกหากไม่ถูกดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้และคุณต้องการออกจากตลาด

- วิธีการตั้งค่า Stop-Loss Order**

วิธีการตั้งค่า Stop-Loss Order จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ Exchange ที่คุณใช้ โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนพื้นฐานมีดังนี้:

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด เช่น Ethereum Futures 2. **เลือกประเภทคำสั่ง:** เลือกประเภท Stop-Loss Order ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ 3. **กำหนด Stop Price:** กำหนดราคาที่คุณต้องการให้คำสั่งขายถูกดำเนินการ 4. **กำหนด Limit Price (สำหรับ Limit Stop-Loss Order):** กำหนดราคาขั้นต่ำที่คุณต้องการขาย (ถ้ามี) 5. **ยืนยันคำสั่ง:** ตรวจสอบรายละเอียดของคำสั่งและยืนยัน

- การกำหนดระดับ Stop-Loss ที่เหมาะสม**

การกำหนดระดับ Stop-Loss ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากตั้ง Stop-Loss สูงเกินไป คุณอาจถูกบังคับให้ขายเร็วเกินไปและพลาดโอกาสในการทำกำไร หากตั้ง Stop-Loss ต่ำเกินไป คุณอาจต้องเผชิญกับความสูญเสียที่มากเกินไป

มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการกำหนดระดับ Stop-Loss ที่เหมาะสม ได้แก่:

**ความผันผวนของสินทรัพย์:** สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงควรมี Stop-Loss ที่กว้างกว่าสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
**กรอบเวลาการเทรด:** เทรดเดอร์ระยะสั้น (เช่น Day Trading) มักจะใช้ Stop-Loss ที่แคบกว่าเทรดเดอร์ระยะยาว (เช่น Swing Trading)
**ระดับแนวรับและแนวต้าน:** ใช้ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
**ขนาดของ Position:** ยิ่งขนาดของ Position ใหญ่เท่าไหร่ Stop-Loss ก็ควรจะกว้างขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
**ความเสี่ยงที่คุณรับได้:** กำหนด Stop-Loss ที่ระดับที่คุณสามารถยอมรับความสูญเสียได้

- ข้อดีและข้อเสียของ Stop-Loss Orders**

- ข้อดี:**

**จำกัดความสูญเสีย:** ป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรด
**ลดความเครียด:** ช่วยลดความเครียดและความกังวลในการเทรด
**อัตโนมัติ:** ช่วยให้คุณออกจากตลาดโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้
**รักษาเงินทุน:** ปกป้องเงินทุนของคุณจากการสูญเสียที่ไม่จำเป็น

- ข้อเสีย:**

**อาจถูก Trigger โดยความผันผวน:** อาจถูก Trigger โดยความผันผวนของราคาที่ไม่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มหลัก
**Slippage:** อาจได้รับราคาที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเนื่องจาก Slippage (ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ได้รับจริง)
**ไม่รับประกันการขาย:** Limit Stop-Loss Order อาจไม่สามารถขายได้หากราคาตกลงอย่างรวดเร็ว

- กลยุทธ์การใช้งาน Stop-Loss Orders**

**Fixed Percentage Stop-Loss:** ตั้ง Stop-Loss ที่เปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้จากราคาเข้า (เช่น 2% หรือ 5%)
**Volatility-Based Stop-Loss:** ใช้ตัวชี้วัดความผันผวน เช่น Average True Range (ATR) ในการกำหนด Stop-Loss
**Support and Resistance Stop-Loss:** ตั้ง Stop-Loss ใต้ระดับแนวรับ (สำหรับ Long Positions) หรือเหนือระดับแนวต้าน (สำหรับ Short Positions)
**Moving Average Stop-Loss:** ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
**Fibonacci Retracement Stop-Loss:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
**Chandelier Exit Stop-Loss:** กลยุทธ์ที่ใช้ ATR เพื่อปรับระดับ Stop-Loss อย่างต่อเนื่อง
**Parabolic SAR Stop-Loss:** ใช้ Parabolic SAR Indicator เพื่อกำหนด Stop-Loss
**Bollinger Bands Stop-Loss:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อกำหนด Stop-Loss
**Ichimoku Cloud Stop-Loss:** ใช้ Ichimoku Cloud Indicator เพื่อกำหนด Stop-Loss
**Donchian Channels Stop-Loss:** ใช้ Donchian Channels เพื่อกำหนด Stop-Loss

- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ที่เกี่ยวข้อง**

การใช้ Stop-Loss Order ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณ ตัวอย่างเช่น:

**การวิเคราะห์แนวโน้ม:** ใช้ Trend Lines และ Chart Patterns เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและกำหนด Stop-Loss ที่เหมาะสม
**การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** สังเกตปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและปรับระดับ Stop-Loss ตามความเหมาะสม
**การใช้ Indicators:** ใช้ Indicators ต่างๆ เช่น Relative Strength Index (RSI), Moving Average Convergence Divergence (MACD), และ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขายและกำหนด Stop-Loss
**การวิเคราะห์ Volume Profile:** ใช้ Volume Profile เพื่อระบุระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดและใช้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
**Order Book Analysis:** วิเคราะห์ Order Book เพื่อดูระดับราคาที่มีคำสั่งซื้อขายจำนวนมากและใช้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss

- ข้อควรระวังเมื่อใช้ Stop-Loss Orders**

**หลีกเลี่ยงการตั้ง Stop-Loss ใกล้กับจุดเข้า:** การตั้ง Stop-Loss ใกล้กับจุดเข้ามากเกินไปอาจทำให้คุณถูกบังคับให้ขายเร็วเกินไปเนื่องจากความผันผวนของราคา
**อย่าลืมปรับ Stop-Loss:** เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดหวัง อย่าลืมปรับ Stop-Loss เพื่อล็อกกำไรและลดความเสี่ยง
**พิจารณาค่าธรรมเนียม:** อย่าลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมเมื่อคำนวณความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
**ทดสอบกลยุทธ์:** ทดสอบกลยุทธ์ Stop-Loss ของคุณด้วย Backtesting หรือ Paper Trading ก่อนที่จะนำไปใช้ในการเทรดจริง

- สรุป**

Stop-Loss Orders เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการบริหารความเสี่ยงในการเทรด ฟิวเจอร์สคริปโต การทำความเข้าใจประเภท, วิธีการตั้งค่า, และกลยุทธ์การใช้งานต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถลดความสูญเสียและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมใช้ Stop-Loss Order ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณ

การบริหารความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด อย่าลงทุนมากกว่าที่คุณสามารถจะสูญเสียได้

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด

การวิเคราะห์ความเสี่ยง

การจัดการ Portfolio

การวางแผนทางการเงิน

การเทรดด้วยความมีวินัย

จิตวิทยาการเทรด

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด

แพลตฟอร์มการเทรด

การเลือก Exchange

การตรวจสอบความปลอดภัยของ Exchange

การป้องกันการ Scam

การติดตามข่าวสารตลาด

การเรียนรู้จากข้อผิดพลาด

การพัฒนาทักษะการเทรด

การใช้เครื่องมือเทรด

การวิเคราะห์เชิงปริมาณ

การสร้างระบบเทรดอัตโนมัติ

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์เศรษฐกิจ

การวิเคราะห์ข่าวสาร

การทำความเข้าใจกราฟราคา

การอ่านสัญญาณทางเทคนิค

การใช้เครื่องมือ Indicator

การทำความเข้าใจ Leverage

การจัดการ Leverage

การประเมินความเสี่ยงของ Leverage

การจัดการเงินทุน

การคำนวณขนาด Position

การใช้ Risk/Reward Ratio

การตั้งเป้าหมายกำไร

การประเมินผลการเทรด

การปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด

การเรียนรู้จากเทรดเดอร์มืออาชีพ

การเข้าร่วม Community เทรด

การพัฒนาความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง

การควบคุมอารมณ์ในการเทรด

การป้องกันความผิดพลาดทางอารมณ์

การสร้างวินัยในการเทรด

การจัดการเวลาในการเทรด

การรักษาสุขภาพกายและใจในการเทรด

การหลีกเลี่ยงการ Overtrading

การพักผ่อนและผ่อนคลาย

การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรด

การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ

การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

การรักษาความลับทางการเงิน

การป้องกันการถูก Hack

การใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง

การเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication

การเก็บรักษา Private Key อย่างปลอดภัย

การสำรองข้อมูลสำคัญ

การอัพเดทซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบัน

การระมัดระวัง Phishing Attacks

การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

การรายงานการฉ้อโกง

การเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลวง

การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดี

การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์

การช่วยเหลือผู้อื่น

การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์

การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง

การมองโลกในแง่ดี

แพลตฟอร์ม	คุณสมบัติฟิวเจอร์ส	ลงทะเบียน
Binance Futures	เลเวอเรจสูงสุดถึง 125x, สัญญา USDⓈ-M	ลงทะเบียนเลย
Bybit Futures	สัญญาแบบย้อนกลับตลอดกาล	เริ่มการซื้อขาย
BingX Futures	การซื้อขายโดยการคัดลอก	เข้าร่วม BingX
Bitget Futures	สัญญารับประกันด้วย USDT	เปิดบัญชี
BitMEX	แพลตฟอร์มคริปโต, เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x	BitMEX

Stop-Loss Orders

🇹🇭 เริ่มต้นการเทรดคริปโตกับ Binance ประเทศไทย

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

เข้าร่วมชุมชนของเรา

เข้าร่วมกับชุมชนของเรา

🎁 รับโบนัสสูงสุด 5000 USDT ที่ Bitget

🤖 บอทสัญญาณคริปโตฟรีบน Telegram — @refobibobot

📈 Premium Crypto Signals – 100% Free

รายการนำทางไซต์