เลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโต
- เลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโต: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น
ฟิวเจอร์สคริปโต (Crypto Futures) ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ด้วยความผันผวนที่สูงของสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้เครื่องมือทางการเงินอย่าง “เลเวอเรจ (Leverage)” กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโต ตั้งแต่หลักการพื้นฐาน ความเสี่ยง ข้อดีข้อเสีย ไปจนถึงกลยุทธ์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
เลเวอเรจคืออะไร?
เลเวอเรจ คือ การใช้เงินทุนกู้ยืมจากโบรกเกอร์ (Broker) เพื่อเพิ่มขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณ (Trading Position) แทนที่จะใช้เงินทุนของคุณเองทั้งหมด ลองจินตนาการว่าคุณมีเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ และโบรกเกอร์เสนอเลเวอเรจ 10 เท่า คุณจะสามารถเปิดตำแหน่งการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐได้
- ตัวอย่าง:*
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้น คุณใช้เงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเลเวอเรจ 10 เท่า เพื่อซื้อ Bitcoin ฟิวเจอร์สที่มีมูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- หากราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 1% มูลค่าตำแหน่งของคุณจะเพิ่มขึ้น 100 ดอลลาร์สหรัฐ (1% ของ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทน 10% บนเงินทุนเริ่มต้นของคุณ (100 ดอลลาร์สหรัฐ / 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
- หากราคา Bitcoin ลดลง 1% มูลค่าตำแหน่งของคุณจะลดลง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นขาดทุน 10% บนเงินทุนเริ่มต้นของคุณ
ทำไมถึงใช้เลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโต?
นักลงทุนใช้เลเวอเรจด้วยเหตุผลหลายประการ:
- เพิ่มผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น: อย่างที่เห็นจากตัวอย่างข้างต้น เลเวอเรจสามารถขยายผลกำไรของคุณได้อย่างมาก
- ลดเงินทุนที่ต้องใช้: คุณสามารถควบคุมตำแหน่งการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงได้ด้วยเงินทุนที่น้อยลง
- เพิ่มสภาพคล่อง: เลเวอเรจช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดที่มีสภาพคล่องสูงได้ง่ายขึ้น
ความเสี่ยงของเลเวอเรจ
แม้ว่าเลเวอเรจจะมีข้อดี แต่ก็มีความเสี่ยงที่สำคัญที่นักลงทุนต้องตระหนัก:
- การขาดทุนที่ขยายใหญ่ขึ้น: เช่นเดียวกับที่ผลกำไรสามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ การขาดทุนก็สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณได้อย่างรวดเร็ว
- การถูกบังคับชำระบัญชี (Liquidation): เมื่อคุณใช้เลเวอเรจ โบรกเกอร์จะกำหนด “ระดับการเรียกหลักประกัน (Margin Level)” หากราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นผลดีต่อคุณ และระดับการเรียกหลักประกันของคุณลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด โบรกเกอร์จะบังคับให้คุณชำระบัญชีตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์เอง
- ค่าธรรมเนียมการระดมทุน (Funding Rates): ในฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุ (Perpetual Futures) คุณอาจต้องจ่ายหรือรับค่าธรรมเนียมการระดมทุน ขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาฟิวเจอร์สและราคาตลาดในปัจจุบัน (Spot Price)
- ความผันผวนของตลาด: ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงมาก ทำให้เลเวอเรจยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น
ประเภทของเลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโต
โดยทั่วไปแล้ว เลเวอเรจในฟิวเจอร์สคริปโตมีสองประเภทหลัก:
- เลเวอเรจแบบคงที่ (Fixed Leverage): โบรกเกอร์กำหนดอัตราส่วนเลเวอเรจที่คงที่ เช่น 10 เท่า 20 เท่า หรือ 50 เท่า
- เลเวอเรจแบบไดนามิก (Dynamic Leverage): อัตราส่วนเลเวอเรจจะปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาด ขนาดของตำแหน่งการซื้อขาย และระดับความเสี่ยงของบัญชีของคุณ
การคำนวณขนาดตำแหน่งและระดับการเรียกหลักประกัน
การทำความเข้าใจวิธีการคำนวณขนาดตำแหน่ง (Position Size) และระดับการเรียกหลักประกัน (Margin Level) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้เลเวอเรจ
- ขนาดตำแหน่ง (Position Size): คำนวณได้จาก: เงินทุน x เลเวอเรจ
- ระดับการเรียกหลักประกัน (Margin Level): คำนวณได้จาก: (มูลค่าหลักประกัน / มูลค่าตำแหน่ง) x 100%
- ตัวอย่าง:*
- เงินทุน: 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- เลเวอเรจ: 20 เท่า
- ขนาดตำแหน่ง: 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ x 20 = 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- หากราคาของสินทรัพย์ลดลง ทำให้มูลค่าตำแหน่งลดลงเหลือ 18,000 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าหลักประกันจะอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ระดับการเรียกหลักประกัน: (2,000 ดอลลาร์สหรัฐ / 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ) x 100% = 10%
หากระดับการเรียกหลักประกันลดลงต่ำกว่าระดับที่โบรกเกอร์กำหนด (เช่น 5%) ตำแหน่งของคุณจะถูกบังคับชำระบัญชี
กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้เลเวอเรจ
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อใช้เลเวอเรจ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถช่วยคุณลดความเสี่ยงได้:
- ใช้ขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม: อย่าเสี่ยงเงินทุนทั้งหมดของคุณในตำแหน่งเดียว
- ตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss Order): คำสั่งหยุดขาดทุนจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- ใช้คำสั่งทำกำไร (Take-Profit Order): คำสั่งทำกำไรจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- กระจายความเสี่ยง (Diversification): ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนของคุณ
- ติดตามข่าวสารและแนวโน้มของตลาด: การรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตลาดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
- เริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ: หากคุณเป็นมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำและค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีความเข้าใจมากขึ้น
กลยุทธ์การเทรดฟิวเจอร์สคริปโตที่ใช้เลเวอเรจ
มีกลยุทธ์การเทรดมากมายที่สามารถใช้กับฟิวเจอร์สคริปโตและเลเวอเรจ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน:
- Scalping: เป็นกลยุทธ์ระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย Scalping
- Day Trading: เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน Day Trading
- Swing Trading: เป็นกลยุทธ์ระยะกลางที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากแนวโน้มของราคา Swing Trading
- Trend Following: เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการระบุและติดตามแนวโน้มของราคา Trend Following
- Arbitrage: เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ Arbitrage
- Mean Reversion: เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย Mean Reversion
- Hedging: เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงโดยการเปิดตำแหน่งที่ชดเชยกัน Hedging
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) ร่วมกันสามารถช่วยคุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นในการเทรดฟิวเจอร์สคริปโต
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์กราฟราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อระบุแนวโน้มของราคาและจุดเข้าออกที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์พื้นฐาน: เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ เช่น ข่าวสาร กฎระเบียบ และการยอมรับเทคโนโลยี การวิเคราะห์พื้นฐาน
เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดฟิวเจอร์สคริปโต
มีแพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตมากมายให้เลือก แต่ละแพลตฟอร์มมีคุณสมบัติและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน บางแพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่:
- Binance Futures: หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับเทรดฟิวเจอร์สคริปโต Binance Futures
- Bybit: แพลตฟอร์มที่เน้นการเทรดฟิวเจอร์สคริปโตด้วยเลเวอเรจที่สูง Bybit
- OKX: แพลตฟอร์มที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึงฟิวเจอร์สคริปโต OKX
- FTX: แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย (ปัจจุบันอยู่ในระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้าง)
การบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงปริมาณ (Quantitative Risk Management)
การใช้เครื่องมือเชิงปริมาณเพื่อประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ:
- Value at Risk (VaR): ประมาณการการขาดทุนสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนดด้วยความน่าจะเป็นที่กำหนด Value at Risk
- Sharpe Ratio: วัดผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยง Sharpe Ratio
- Maximum Drawdown: วัดการลดลงสูงสุดของมูลค่าพอร์ตการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด Maximum Drawdown
- Monte Carlo Simulation: ใช้การจำลองเพื่อประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น Monte Carlo Simulation
ข้อควรจำก่อนเริ่มต้นเทรดฟิวเจอร์สคริปโต
- ศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียด: ก่อนที่จะเริ่มเทรดฟิวเจอร์สคริปโต คุณต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับตลาด ความเสี่ยง และกลยุทธ์ต่างๆ
- เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย: อย่าเสี่ยงเงินทุนที่คุณไม่สามารถเสียได้
- ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account): ใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์ของคุณก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- มีวินัยในการเทรด: ปฏิบัติตามแผนการเทรดของคุณและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่น
- ติดตามผลการเทรดของคุณ: วิเคราะห์ผลการเทรดของคุณเพื่อเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ
การเทรดฟิวเจอร์สคริปโตด้วยเลเวอเรจสามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมาก การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐาน การจัดการความเสี่ยง และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเทรด อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
การวิเคราะห์ราคา Bitcoin การวิเคราะห์ Altcoin กลยุทธ์การเทรดระยะยาว กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น การบริหารพอร์ตคริปโต ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Blockchain ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Smart Contract การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Decentralized Finance (DeFi) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Non-Fungible Token (NFT) การวิเคราะห์ On-Chain การใช้ Indicators ทางเทคนิค Fibonacci Retracement Moving Averages Relative Strength Index (RSI) Bollinger Bands MACD Elliott Wave Theory Ichimoku Cloud Candlestick Pattern Pattern Recognition
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจสูงสุดถึง 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนเลย |
Bybit Futures | สัญญาแบบย้อนกลับตลอดกาล | เริ่มการซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายโดยการคัดลอก | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญารับประกันด้วย USDT | เปิดบัญชี |
BitMEX | แพลตฟอร์มคริปโต, เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x | BitMEX |
เข้าร่วมชุมชนของเรา
ติดตามช่อง Telegram @strategybin เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม. แพลตฟอร์มทำกำไรที่ดีที่สุด – ลงทะเบียนเลย.
เข้าร่วมกับชุมชนของเรา
ติดตามช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อการวิเคราะห์, สัญญาณฟรี และอื่น ๆ!