Japanese
- Japanese: คู่มือการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตสำหรับมือใหม่
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและโอกาสในการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม การซื้อขายฟิวเจอร์สก็มีความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง สำหรับมือใหม่ที่สนใจการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ "Japanese" ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจตลาดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
- Japanese คืออะไร?
Japanese ในที่นี้หมายถึง "Japanese Candlestick" หรือ "แท่งเทียนญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการอ่านกราฟราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน รวมถึงคริปโตเคอเรนซี่ แท่งเทียนญี่ปุ่นถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยพ่อค้าข้าวชาวญี่ปุ่นชื่อ Munehisa Homma และต่อมาได้รับการปรับปรุงและนำมาใช้ในตลาดการเงินทั่วโลก
- ส่วนประกอบของแท่งเทียนญี่ปุ่น
แต่ละแท่งเทียนญี่ปุ่นประกอบด้วยส่วนหลักๆ ดังนี้:
1. **ตัวแท่ง (Body)**: แสดงถึงช่วงราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์ในเวลาที่กำหนด
- หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด: ตัวแท่งจะเป็นสีเขียวหรือขาว (แสดงถึงการขึ้นของราคา) - หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด: ตัวแท่งจะเป็นสีแดงหรือดำ (แสดงถึงการลงของราคา)
2. **เส้นบน (Upper Wick/Shadow)**: แสดงถึงราคาสูงสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
3. **เส้นล่าง (Lower Wick/Shadow)**: แสดงถึงราคาต่ำสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
- ตัวอย่างการอ่านแท่งเทียนญี่ปุ่น
สมมติว่า Bitcoin มีราคาเปิดที่ $30,000 และราคาปิดที่ $31,000 ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ราคาสูงสุดอยู่ที่ $31,500 และราคาต่ำสุดอยู่ที่ $29,800 แท่งเทียนญี่ปุ่นจะแสดงดังนี้:
- ตัวแท่ง: สีเขียว (เพราะราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) - เส้นบน: ยื่นจาก $31,000 ถึง $31,500 - เส้นล่าง: ยื่นจาก $30,000 ถึง $29,800
- การใช้ Japanese Candlestick ในการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต
การเข้าใจและใช้แท่งเทียนญี่ปุ่นช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างการใช้งาน:
- 1. **การระบุแนวโน้มตลาด**
- **แท่งเทียนยาว (Long Candles)**: แสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม เช่น แท่งเทียนเขียวยาวแสดงถึงการขึ้นของราคาที่แข็งแกร่ง - **แท่งเทียนสั้น (Short Candles)**: แสดงถึงความไม่แน่นอนหรือการผ่อนตัวของตลาด
- 2. **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
มีรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญหลายแบบที่สามารถใช้เป็นสัญญาณซื้อหรือขายได้ เช่น:
- **Hammer**: แท่งเทียนที่มีเส้นล่างยาวและตัวแท่งสั้น มักเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้น - **Shooting Star**: แท่งเทียนที่มีเส้นบนยาวและตัวแท่งสั้น มักเป็นสัญญาณของการกลับตัวลง - **Engulfing Pattern**: แท่งเทียนที่ "กลืน" แท่งเทียนก่อนหน้า มักเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้ม
- 3. **การยืนยันสัญญาณ**
การใช้แท่งเทียนญี่ปุ่นร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เช่น กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
- ตัวอย่างการซื้อขายฟิวเจอร์สด้วย Japanese Candlestick
สมมติว่าคุณสังเกตเห็นรูปแบบ Hammer หลังจากที่ Bitcoin ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง คุณอาจตัดสินใจเปิดตำแหน่ง Long (ซื้อ) โดยตั้ง Stop Loss ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ Hammer และเป้าหมายกำไรที่ระดับ Resistance ถัดไป
- สรุป
การเข้าใจและใช้ Japanese Candlestick เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต แท่งเทียนญี่ปุ่นช่วยให้คุณอ่านกราฟราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถระบุแนวโน้มตลาดได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นควรใช้เครื่องมือวิเคราะห์และการจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส ควบคู่ไปด้วยเสมอ
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมจากบทความ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และปฏิบัติการซื้อขายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อนลงทุนจริง
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!