โครงสร้างค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม

จาก cryptofutures.trading
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

---

  1. โครงสร้างค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม: คู่มือสำหรับมือใหม่ในการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต

การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม การเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประเมินต้นทุนและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะอธิบายโครงสร้างค่าธรรมเนียมแบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ

---

    1. ค่าธรรมเนียมพื้นฐานในการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต

เมื่อคุณซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต แพลตฟอร์มจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหลักๆ 2 ประเภท:

1. **ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (Trading Fee)**

  ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกเรียกเก็บทุกครั้งที่คุณเปิดหรือปิดตำแหน่งการซื้อขาย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน:  
  - **ค่าธรรมเนียมผู้ทำรายการ (Maker Fee)**: ค่าธรรมเนียมเมื่อคุณเพิ่มคำสั่งซื้อหรือขายลงในสมุดคำสั่ง (Order Book)  
  - **ค่าธรรมเนียมผู้รับรายการ (Taker Fee)**: ค่าธรรมเนียมเมื่อคุณทำรายการทันทีด้วยคำสั่งที่มีอยู่แล้วในสมุดคำสั่ง  
  ตัวอย่าง:  
  - แพลตฟอร์ม A เรียกเก็บ Maker Fee 0.02% และ Taker Fee 0.04%  
  - หากคุณเปิดตำแหน่งซื้อด้วยมูลค่า 10,000 USD และเป็นผู้ทำรายการ คุณจะเสียค่าธรรมเนียม 2 USD  

2. **ค่าธรรมเนียมการเงิน (Funding Fee)**

  ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคำนวณทุกๆ ช่วงเวลา (เช่น ทุก 8 ชั่วโมง) เพื่อปรับสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายฟิวเจอร์ส โดยขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาฟิวเจอร์สและราคาสปอต  
  ตัวอย่าง:  
  - หาก Funding Rate เป็น 0.01% และคุณถือตำแหน่งมูลค่า 10,000 USD คุณอาจต้องจ่ายหรือได้รับ 1 USD ต่อรอบ  

---

    1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าธรรมเนียม

1. **ระดับปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume)**

  แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มักลดค่าธรรมเนียมเมื่อคุณมีปริมาณการซื้อขายสูงขึ้น  

2. **การใช้โทเคนของแพลตฟอร์ม (Platform Token)**

  บางแพลตฟอร์มให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมหากคุณใช้โทเคนของแพลตฟอร์ม (เช่น BNB, FTT)  

3. **ประเภทบัญชี (Account Tier)**

  บัญชีระดับสูงอาจได้รับค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าบัญชีทั่วไป  

---

    1. ตัวอย่างการคำนวณค่าธรรมเนียม

สมมติคุณซื้อขายฟิวเจอร์ส Bitcoin ด้วยมูลค่า 20,000 USD บนแพลตฟอร์มที่มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมดังนี้: - Maker Fee: 0.02% - Taker Fee: 0.04% - Funding Rate: 0.01%

    • กรณีที่ 1**: คุณเป็นผู้ทำรายการ (Maker)

- ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม = 20,000 USD * 0.02% = 4 USD

    • กรณีที่ 2**: คุณเป็นผู้รับรายการ (Taker)

- ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม = 20,000 USD * 0.04% = 8 USD

    • กรณีที่ 3**: คุณถือตำแหน่ง 1 วัน (3 รอบ Funding)

- ค่าธรรมเนียมการเงิน = 20,000 USD * 0.01% * 3 = 6 USD

---

    1. เคล็ดลับลดค่าธรรมเนียม

1. **เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม**

  เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Binance, Bybit, หรือ Kraken  

2. **เป็นผู้ทำรายการ (Maker)**

  การเพิ่มคำสั่งลงในสมุดคำสั่งมักมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการรับรายการทันที  

3. **ใช้โทเคนของแพลตฟอร์ม**

  หากแพลตฟอร์มมีโทเคนเฉพาะ (เช่น BNB) การใช้โทเคนนี้สามารถลดค่าธรรมเนียมได้  

4. **วางแผนกลยุทธ์การซื้อขาย**

  เรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน  

---

    1. ความสำคัญของการจัดการความเสี่ยง

การซื้อขายฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นนอกจากการเข้าใจค่าธรรมเนียมแล้ว คุณควรเรียนรู้การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

---

    1. สรุป

การเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับมือใหม่ที่ต้องการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเปรียบเทียบแพลตฟอร์ม วางแผนกลยุทธ์ และจัดการความเสี่ยง คุณสามารถลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม คุณสมบัติฟิวเจอร์ส ลงทะเบียน
Binance Futures เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M ลงทะเบียนทันที
Bybit Futures สัญญาถาวรแบบกลับด้าน เริ่มซื้อขาย
BingX Futures การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส เข้าร่วม BingX
Bitget Futures สัญญามาร์จิน USDT เปิดบัญชี

เข้าร่วมชุมชน

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!