วิธีกำหนดขนาดตำแหน่งฟิวเจอร์สคริปโตด้วยกลยุทธ์เลเวอเรจ
- วิธีกำหนดขนาดตำแหน่งฟิวเจอร์สคริปโตด้วยกลยุทธ์เลเวอเรจ
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจ (Leverage) ในตลาดฟิวเจอร์สคริปโตเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะมันสามารถเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนได้อย่างมหาศาลในเวลาเดียวกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจ **วิธีกำหนดขนาดตำแหน่งฟิวเจอร์สคริปโตด้วยกลยุทธ์เลเวอเรจ** เพื่อให้มือใหม่สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
- 1. เลเวอเรจคืออะไร?
เลเวอเรจคือการที่เทรดเดอร์ใช้เงินจำนวนน้อยเพื่อควบคุมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า เช่น การใช้เลเวอเรจ 10x หมายความว่าคุณสามารถควบคุมสินทรัพย์ที่มีมูลค่า 10 เท่าของเงินทุนที่คุณมี โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินทั้งหมด ข้อดีคือคุณสามารถทำกำไรได้มากกว่า แต่ข้อเสียคือหากตลาดเคลื่อนไหวในทางตรงข้าม คุณก็อาจจะขาดทุนได้มากเช่นกัน
---
- 2. วิธีกำหนดขนาดตำแหน่งฟิวเจอร์สคริปโต
การกำหนดขนาดตำแหน่ง (Position Sizing) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจ วิธีการกำหนดขนาดตำแหน่งมีขั้นตอนดังนี้:
- 2.1 กำหนดจำนวนเงินที่พร้อมจะเสี่ยง
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าคุณพร้อมจะเสียเงินเท่าไหร่ในการเทรดแต่ละครั้ง โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์มักจะเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง เช่น หากคุณมีทุน 100,000 บาท คุณควรเสี่ยงไม่เกิน 1,000-2,000 บาทต่อการเทรด
- 2.2 คำนวณขนาดตำแหน่ง
ขนาดตำแหน่งขึ้นอยู่กับจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ที่คุณตั้งไว้ ยิ่งจุดหยุดขาดทุนแคบ คุณสามารถเปิดตำแหน่งได้ใหญ่ขึ้น ตัวอย่าง:
- **ทุน**: 100,000 บาท - **ความเสี่ยงที่ยอมรับ**: 1% (1,000 บาท) - **จุดหยุดขาดทุน**: 5% ของราคาสินทรัพย์
หากคุณต้องการซื้อ Bitcoin ที่ราคา 1,000,000 บาท และตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ 5% (50,000 บาท) ขนาดตำแหน่งที่คุณสามารถเปิดได้คือ:
``` ขนาดตำแหน่ง = (ความเสี่ยงที่ยอมรับ) / (จุดหยุดขาดทุน) ขนาดตำแหน่ง = 1,000 / 50,000 = 0.02 BTC ```
- 2.3 นำเลเวอเรจเข้ามาใช้
เมื่อคุณรู้ขนาดตำแหน่งแล้ว คุณสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มมูลค่าตำแหน่งได้ เช่น หากคุณใช้เลเวอเรจ 5x ตำแหน่ง 0.02 BTC จะมีมูลค่าเท่ากับ 0.1 BTC แต่ต้องจำไว้ว่าเลเวอเรจจะเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุน ดังนั้นควรใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง
---
- 3. ตัวอย่างการเทรดด้วยเลเวอเรจ
สมมติว่าคุณมีทุน 100,000 บาท และต้องการซื้อ Ethereum (ETH) ที่ราคา 100,000 บาทต่อ ETH โดยตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ 10% และใช้เลเวอเรจ 5x
1. **ความเสี่ยงที่ยอมรับ**: 1% ของทุน = 1,000 บาท 2. **จุดหยุดขาดทุน**: 10% ของราคา ETH = 10,000 บาท 3. **ขนาดตำแหน่ง**: 1,000 / 10,000 = 0.1 ETH 4. **มูลค่าตำแหน่งเมื่อใช้เลเวอเรจ 5x**: 0.1 ETH x 5 = 0.5 ETH (มูลค่า 50,000 บาท)
หากราคา ETH เพิ่มขึ้น 10% คุณจะได้กำไร 5,000 บาท แต่หากราคาลดลง 10% คุณจะขาดทุน 5,000 บาท
---
- 4. เคล็ดลับการจัดการความเสี่ยง
1. **อย่าใช้เลเวอเรจสูงเกินไป**: เลเวอเรจสูงอาจทำให้ขาดทุนได้รวดเร็ว ควรใช้เลเวอเรจในระดับที่คุณสามารถรับมือได้ 2. **ตั้งจุดหยุดขาดทุนทุกครั้ง**: จุดหยุดขาดทุนช่วยจำกัดความเสียหายหากตลาดเคลื่อนไหวในทางตรงข้าม 3. **กระจายความเสี่ยง**: อย่าใส่เงินทั้งหมดไปในตำแหน่งเดียว ควรกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์
---
- 5. สรุป
การกำหนดขนาดตำแหน่งฟิวเจอร์สคริปโตด้วยกลยุทธ์เลเวอเรจเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ คุณควรคำนวณขนาดตำแหน่งให้เหมาะสมกับทุนและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะสามารถอยู่รอดในตลาดที่มีความผันผวนสูงได้ในระยะยาว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สและการจัดการความเสี่ยง คุณสามารถอ่านบทความเหล่านี้ได้ที่ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส
---
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!