คุณสมบัติเฉพาะของแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สที่สนับสนุนการซื้อขายระดับสถาบัน
- คุณสมบัติเฉพาะของแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สที่สนับสนุนการซื้อขายระดับสถาบัน
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงินที่มีความต้องการในการจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจพื้นฐานของฟิวเจอร์สคริปโต พร้อมตัวอย่างการเทรดจริง และคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของการซื้อขายฟิวเจอร์ส
- 1. พื้นฐานฟิวเจอร์สคริปโต
- ความแตกต่างระหว่างฟิวเจอร์สและสปอต
- **สปอตเทรดดิ้ง**: คุณซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล (เช่น Bitcoin, Ethereum) ในราคาปัจจุบันและเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นทันที - **ฟิวเจอร์สเทรดดิ้ง**: คุณทำสัญญาซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลในราคาที่กำหนดล่วงหน้าและจะส่งมอบในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น
- ประเภทของสัญญาฟิวเจอร์ส
1. **สัญญาฟิวเจอร์สแบบมีวันหมดอายุ**: สัญญานี้จะมีวันหมดอายุที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น 1 เดือนหรือ 3 เดือน เมื่อถึงวันหมดอายุ สัญญาจะปิดอัตโนมัติ 2. **สัญญาฟิวเจอร์สแบบถาวร (Perpetual Futures)**: สัญญานี้ไม่มีวันหมดอายุ คุณสามารถถือตำแหน่งได้นานเท่าที่ต้องการ แต่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเงินทุน (Funding Rate) เพื่อรักษาตำแหน่ง
- การใช้เลเวอเรจและความเสี่ยง
- **เลเวอเรจ**: เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถเทรดด้วยเงินทุนที่มากกว่าที่คุณมีจริง เช่น เลเวอเรจ 10x หมายความว่าคุณสามารถเทรดด้วยเงิน 10 เท่าของเงินทุนจริง - **ความเสี่ยง**: การใช้เลเวอเรจสูงอาจทำให้คุณได้กำไรหรือขาดทุนมากขึ้น ดังนั้นต้องระมัดระวังและจัดการความเสี่ยงให้ดี
- 2. ตัวอย่างการเทรดจริง
- ขั้นตอนการเปิดสถานะ Long และ Short
1. **Long (ซื้อ)**: คุณคาดว่าราคาจะขึ้น ดังนั้นคุณเปิดสถานะ Long เพื่อซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำและขายในราคาที่สูงกว่า 2. **Short (ขาย)**: คุณคาดว่าราคาจะลง ดังนั้นคุณเปิดสถานะ Short เพื่อขายสินทรัพย์ในราคาที่สูงและซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า
- การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit
- **Stop-Loss**: เป็นการตั้งระดับราคาที่คุณยอมขาดทุนสูงสุด หากราคาเคลื่อนที่มาถึงระดับนี้ สัญญาจะปิดอัตโนมัติ - **Take-Profit**: เป็นการตั้งระดับราคาที่คุณต้องการทำกำไร เมื่อราคาเคลื่อนที่มาถึงระดับนี้ สัญญาจะปิดอัตโนมัติ
- การคำนวณกำไร/ขาดทุน
ตัวอย่าง: คุณเปิดสถานะ Long ที่ราคา $30,000 ด้วยเลเวอเรจ 10x และราคาเพิ่มขึ้นเป็น $33,000 - กำไร = (ราคาปิด - ราคาเปิด) * จำนวนสัญญา * มูลค่าสัญญา - กำไร = ($33,000 - $30,000) * 1 * 1 = $3,000
- 3. คำแนะนำสำหรับมือใหม่
- วิธีเลือกแพลตฟอร์ม
- **Binance**: แพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีสภาพคล่องดี - **Bybit**: แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย
- การจัดการความเสี่ยง
- อย่าใช้เลเวอเรจสูงเกินไป - ใช้ Stop-Loss และ Take-Profit อย่างสม่ำเสมอ - กระจายความเสี่ยงด้วยการเทรดหลายสินทรัพย์
- การใช้บัญชีทดลอง
- ฝึกเทรดในบัญชีทดลองก่อนลงทุนจริงเพื่อทำความเข้าใจระบบและทดสอบกลยุทธ์
- ตารางเปรียบเทียบแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส
| แพลตฟอร์ม | เลเวอเรจสูงสุด | ค่าธรรมเนียม | สภาพคล่อง | |-----------|----------------|-------------|----------| | Binance | 125x | 0.02% | สูง | | Bybit | 100x | 0.01% | ปานกลาง | | Kraken | 50x | 0.05% | ต่ำ |
- ตัวอย่างการคำนวณเลเวอเรจและมาร์จิน
- **เลเวอเรจ 10x**: หากคุณมีเงินทุน $1,000 คุณสามารถเทรดได้มูลค่า $10,000 - **มาร์จิน**: จำนวนเงินที่คุณต้องวางเพื่อเปิดสถานะ เช่น เลเวอเรจ 10x ต้องการมาร์จิน 10% ของมูลค่าสัญญา
- ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรด
1. **Trend Following**: เทรดตามแนวโน้มราคา เช่น หากราคา Bitcoin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ให้เปิดสถานะ Long 2. **Range Trading**: เทรดในช่วงราคาที่คงที่ โดยซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูง
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นการทำความเข้าใจพื้นฐานและการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกเทรดเดอร์
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!