การใช้ Pivot Points (Pivot Points)

🇹🇭 เริ่มต้นการเทรดคริปโตกับ Binance ประเทศไทย

สมัครผ่าน ลิงก์นี้ เพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมแบบถาวร!

✅ ส่วนลดค่าธรรมเนียม 10% สำหรับ Futures
✅ รองรับการฝากเงินด้วย THB ผ่านบัญชีธนาคาร
✅ แอปมือถือ รองรับภาษาไทย และบริการลูกค้าท้องถิ่น

1. การใช้ Pivot Points (Pivot Points)

บทนำ

การเทรด ฟิวเจอร์สคริปโต และตลาดการเงินโดยทั่วไปนั้นเต็มไปด้วยเครื่องมือและตัวชี้วัดทางเทคนิคมากมายที่จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล Pivot Points หรือ จุดหมุน เป็นหนึ่งในเครื่องมือเหล่านั้นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากใช้งานง่ายแต่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ต่อการวางแผนการเทรด บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Pivot Points ตั้งแต่พื้นฐาน การคำนวณ การใช้งานในเชิงปฏิบัติ ไปจนถึงข้อควรระวังสำหรับผู้เริ่มต้น

Pivot Points คืออะไร?

Pivot Points เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในตลาด จุดหมุนถูกคำนวณจากราคาของสินทรัพย์ในกรอบเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วจะใช้ราคา High, Low และ Close ของวันก่อนหน้าในการคำนวณ Pivot Points หลัก และระดับแนวรับ/แนวต้านที่เกี่ยวข้อง

แนวคิดพื้นฐานคือ Pivot Point จะทำหน้าที่เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญสำหรับนักเทรดในการตัดสินใจว่าจะเข้าซื้อ (Long) หรือขาย (Short) สินทรัพย์นั้นๆ นักเทรดมักจะใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages หรือ RSI (Relative Strength Index) เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรดและลดความเสี่ยง

การคำนวณ Pivot Points

การคำนวณ Pivot Points นั้นค่อนข้างง่าย มีสูตรพื้นฐานดังนี้:

**Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
**Resistance Level 1 (R1):** (2 * Pivot Point) - Low
**Resistance Level 2 (R2):** Pivot Point + (High - Low)
**Support Level 1 (S1):** (2 * Pivot Point) - High
**Support Level 2 (S2):** Pivot Point - (High - Low)

โดยที่:

High คือ ราคาสูงสุดของวันก่อนหน้า
Low คือ ราคาต่ำสุดของวันก่อนหน้า
Close คือ ราคาปิดของวันก่อนหน้า

- ตัวอย่าง:**

สมมติว่าเมื่อวานนี้ Bitcoin (BTC) มีราคา:

High: 30,000 USD
Low: 28,000 USD
Close: 29,000 USD

การคำนวณ Pivot Points จะเป็นดังนี้:

PP = (30,000 + 28,000 + 29,000) / 3 = 29,000 USD
R1 = (2 * 29,000) - 28,000 = 30,000 USD
R2 = 29,000 + (30,000 - 28,000) = 31,000 USD
S1 = (2 * 29,000) - 30,000 = 28,000 USD
S2 = 29,000 - (30,000 - 28,000) = 27,000 USD

ดังนั้น Pivot Points สำหรับ BTC ในวันนี้คือ:

Pivot Point: 29,000 USD
Resistance 1: 30,000 USD
Resistance 2: 31,000 USD
Support 1: 28,000 USD
Support 2: 27,000 USD

การใช้งาน Pivot Points ในการเทรด

เมื่อคำนวณ Pivot Points ได้แล้ว นักเทรดสามารถนำไปใช้งานได้หลายวิธี:

1. **การระบุแนวรับและแนวต้าน:** Pivot Points และระดับต่างๆ ที่คำนวณได้ (S1, S2, R1, R2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ หากราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้แนวรับ นักเทรดอาจพิจารณาเข้าซื้อ หากราคาเข้าใกล้แนวต้าน นักเทรดอาจพิจารณาเข้าขาย

2. **การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit:** นักเทรดสามารถใช้ Pivot Points ในการตั้งระดับ Stop-Loss และ Take-Profit ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเข้าซื้อเมื่อราคาแตะ Support Level 1 (S1) คุณอาจตั้ง Stop-Loss ไว้ต่ำกว่า S2 เล็กน้อย และ Take-Profit ไว้ที่ R1 หรือ R2

3. **การยืนยันสัญญาณการเทรด:** Pivot Points สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรดที่ได้จากเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นสัญญาณซื้อจาก MACD (Moving Average Convergence Divergence) และราคาใกล้เคียงกับ Support Level 1 คุณอาจพิจารณาเข้าซื้อ

4. **การระบุ Breakout:** หากราคา Breakout (ทะลุ) ระดับ Resistance ที่สำคัญ (เช่น R2) อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกัน หากราคา Breakout ระดับ Support ที่สำคัญ (เช่น S2) อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง Breakout Trading เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้ร่วมกับ Pivot Points

5. **การวิเคราะห์ Multiple Timeframes:** การใช้ Pivot Points ในหลายกรอบเวลา (เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน) จะช่วยให้นักเทรดมองเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และระบุระดับแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Points

มีกลยุทธ์การเทรดมากมายที่สามารถใช้ร่วมกับ Pivot Points ได้ นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

**Pivot Point Bounce:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อเมื่อราคาเด้งกลับจากแนวรับ (S1, S2) และขายเมื่อราคาเด้งกลับจากแนวต้าน (R1, R2) กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาด Sideways หรือตลาดที่ Consolidation
**Pivot Point Breakout:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อเมื่อราคา Breakout เหนือระดับ Resistance (R2) และขายเมื่อราคา Breakout ต่ำกว่าระดับ Support (S2) กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
**Pivot Point Reversal:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการมองหาสัญญาณ Reversal (กลับตัว) ใกล้กับ Pivot Points ตัวอย่างเช่น หากราคาเข้าใกล้แนวต้าน R1 และมีการเกิด Doji หรือ Engulfing Pattern อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
**Pivot Point Confluence:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการมองหาจุดที่ Pivot Points มาบรรจบกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Fibonacci Retracements หรือ Trend Lines จุดที่เกิด Confluence (การบรรจบกัน) มักจะเป็นระดับแนวรับ/แนวต้านที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ

ข้อควรระวังในการใช้ Pivot Points

แม้ว่า Pivot Points จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่นักเทรดควรทราบ:

**Pivot Points ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Pivot Points เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคมากมาย ไม่ควรใช้ Pivot Points เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเทรด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
**Pivot Points อาจถูกทะลุทะลวง:** ระดับ Pivot Points ไม่ได้เป็นเส้นแบ่งที่แข็งแกร่งเสมอไป ราคาอาจ Breakout เหนือหรือต่ำกว่าระดับ Pivot Points ได้ ดังนั้นจึงควรตั้ง Stop-Loss ไว้เสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง
**Pivot Points มีความล่าช้า:** Pivot Points ถูกคำนวณจากราคาในอดีต ดังนั้นจึงอาจมีความล่าช้าในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในปัจจุบัน
**การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสม:** การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมในการคำนวณ Pivot Points เป็นสิ่งสำคัญ กรอบเวลาที่แตกต่างกันจะให้ระดับ Pivot Points ที่แตกต่างกัน นักเทรดควรเลือกกรอบเวลาที่สอดคล้องกับสไตล์การเทรดของตน

การปรับปรุง Pivot Points

มีวิธีการต่างๆ ที่สามารถนำมาปรับปรุงการใช้งาน Pivot Points ได้:

**Fibonacci Pivot Points:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement ร่วมกับ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่แม่นยำยิ่งขึ้น
**Woodie's Pivot Points:** เป็นวิธีการคำนวณ Pivot Points ที่ซับซ้อนกว่า โดยพิจารณาจากช่วงราคาที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
**Pivot Points ที่ปรับตาม Volatility:** ปรับระดับ Pivot Points ตามความผันผวนของตลาด โดยใช้ตัวชี้วัดเช่น ATR (Average True Range)

สรุป

Pivot Points เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย ที่สามารถช่วยให้นักเทรดระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ วางแผนการเทรด และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของ Pivot Points และใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด การบริหารความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดฟิวเจอร์สคริปโต และการใช้ Pivot Points อย่างชาญฉลาดสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่งได้

ลิงก์เพิ่มเติม

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม	คุณสมบัติฟิวเจอร์ส	ลงทะเบียน
Binance Futures	เลเวอเรจสูงสุดถึง 125x, สัญญา USDⓈ-M	ลงทะเบียนเลย
Bybit Futures	สัญญาแบบย้อนกลับตลอดกาล	เริ่มการซื้อขาย
BingX Futures	การซื้อขายโดยการคัดลอก	เข้าร่วม BingX
Bitget Futures	สัญญารับประกันด้วย USDT	เปิดบัญชี
BitMEX	แพลตฟอร์มคริปโต, เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x	BitMEX

เข้าร่วมชุมชนของเรา

ติดตามช่อง Telegram @strategybin เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม. แพลตฟอร์มทำกำไรที่ดีที่สุด – ลงทะเบียนเลย.

เข้าร่วมกับชุมชนของเรา

ติดตามช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อการวิเคราะห์, สัญญาณฟรี และอื่น ๆ!

🎁 รับโบนัสสูงสุด 5000 USDT ที่ Bitget

ลงทะเบียนที่ Bitget และเริ่มเทรดพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย!

✅ โบนัสต้อนรับสูงสุด 5000 USDT
✅ ซื้อคริปโตด้วยบัตรเครดิต/เดบิต และ Google Pay
✅ อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย รองรับผู้ใช้งานไทย

🤖 บอทสัญญาณคริปโตฟรีบน Telegram — @refobibobot

รับสัญญาณการเทรดทุกวันแบบเรียลไทม์จากบอทอัตโนมัติใน Telegram
เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ!

✅ แจ้งเตือนเร็ว ไม่พลาดจังหวะ
✅ ฟรี 100% และไม่มีโฆษณา
✅ ใช้งานง่าย รองรับมือถือ

📈 Premium Crypto Signals – 100% Free

🚀 Get trading signals from high-ticket private channels of experienced traders — absolutely free.

✅ No fees, no subscriptions, no spam — just register via our BingX partner link.

🔓 No KYC required unless you deposit over 50,000 USDT.

💡 Why is it free? Because when you earn, we earn. You become our referral — your profit is our motivation.

🎯 Winrate: 70.59% — real results from real trades.

We’re not selling signals — we’re helping you win.

Join @refobibobot on Telegram