การจัดการมาร์จินและกำหนดขนาดตำแหน่งในแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส ETH แบบถาวร
- การจัดการมาร์จินและกำหนดขนาดตำแหน่งในแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส ETH แบบถาวร
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคาได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง อย่างไรก็ตาม การเทรดฟิวเจอร์สมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจ บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานการเทรดฟิวเจอร์สคริปโต รวมถึงวิธีการจัดการมาร์จินและกำหนดขนาดตำแหน่งสำหรับมือใหม่ที่สนใจเทรด ETH แบบถาวร
---
- พื้นฐานฟิวเจอร์สคริปโต
- 1. ความแตกต่างระหว่างฟิวเจอร์สและสปอต
- **สปอต**: การซื้อขายสินทรัพย์จริง เช่น ซื้อ ETH ในราคาปัจจุบันและถือครอง - **ฟิวเจอร์ส**: การทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง สามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร
- 2. ประเภทของสัญญาฟิวเจอร์ส
- **แบบมีวันหมดอายุ**: สัญญาที่มีวันที่สิ้นสุดกำหนดไว้ เช่น 3 เดือนหรือ 6 เดือน - **แบบถาวร (Perpetual)**: สัญญาที่ไม่มีวันหมดอายุ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเปิดสถานะได้อย่างต่อเนื่อง
- 3. การใช้เลเวอเรจและความเสี่ยง
เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะได้ใหญ่กว่าทุนที่มี แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนสูง เช่น การใช้เลเวอเรจ 10x หมายความว่ากำไรหรือขาดทุนจะถูกคำนวณเป็น 10 เท่าของสถานะ
---
- ตัวอย่างการเทรดจริง
- 1. ขั้นตอนการเปิดสถานะ Long และ Short
- **Long**: คาดว่าราคาจะขึ้น เช่น ซื้อ ETH ที่ราคา $1,500 - **Short**: คาดว่าราคาจะลง เช่น ขาย ETH ที่ราคา $1,500
- 2. การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit
- **Stop-Loss**: ตั้งระดับราคาที่จะปิดสถานะอัตโนมัติเพื่อจำกัดขาดทุน เช่น ตั้ง Stop-Loss ที่ $1,450 เมื่อเปิด Long ที่ $1,500 - **Take-Profit**: ตั้งระดับราคาที่จะปิดสถานะอัตโนมัติเพื่อรับกำไร เช่น ตั้ง Take-Profit ที่ $1,600
- 3. การคำนวณกำไร/ขาดทุน
ตัวอย่าง: เปิด Long ETH ที่ $1,500 ด้วยเลเวอเรจ 10x และราคาขึ้นไปที่ $1,600 - กำไร = (ราคาปิด - ราคาเปิด) × ขนาดสัญญา × เลเวอเรจ
= ($1,600 - $1,500) × 1 × 10 = $1,000
---
- คำแนะนำสำหรับมือใหม่
- 1. วิธีเลือกแพลตฟอร์ม
- **Binance**: แพลตฟอร์มใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง - **Bybit**: มีอินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและค่าธรรมเนียมต่ำ
- 2. การจัดการความเสี่ยง
- อย่าใช้เลเวอเรจสูงเกินไป โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ - กำหนด Stop-Loss ทุกครั้งที่เปิดสถานะ - อย่าเทรดด้วยเงินที่คุณไม่สามารถ承受การสูญเสียได้
- 3. การใช้บัญชีทดลอง
ก่อนเริ่มเทรดจริง ควรฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองเพื่อทำความเข้าใจกลไกการทำงานและทดสอบกลยุทธ์
---
- ตารางเปรียบเทียบแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส
| แพลตฟอร์ม | ค่าธรรมเนียม | เลเวอเรจสูงสุด | สภาพคล่อง | |-----------|-------------|----------------|-----------| | Binance | ต่ำ | 125x | สูง | | Bybit | ต่ำ | 100x | ปานกลาง | | OKX | ปานกลาง | 125x | สูง |
---
- ตัวอย่างการคำนวณเลเวอเรจและมาร์จิน
ตัวอย่าง: ต้องการเปิดสถานะ Long ETH ที่ $1,500 ด้วยเลเวอเรจ 10x - มาร์จินที่ต้องการ = (ขนาดสัญญา × ราคาเปิด) ÷ เลเวอเรจ
= (1 × $1,500) ÷ 10 = $150
---
- ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรด
1. **กลยุทธ์ Trend Following**: เปิดสถานะตามทิศทางของเทรนด์ เช่น Long เมื่อราคาในแนวโน้มขาขึ้น 2. **กลยุทธ์ Range Trading**: ซื้อที่จุดต่ำ (Support) และขายที่จุดสูง (Resistance) ในช่วงราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบ
---
การเทรดฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการมาร์จินและความเสี่ยง เริ่มต้นด้วยการฝึกฝนและทำความเข้าใจกลไกให้ดีก่อนลงทุนจริง
กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส
การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!