แพลตฟอร์มฟิวเจอร์สคริปโต: เครื่องมือคำนวณมาร์จินและป้องกันความเสี่ยง
- แพลตฟอร์มฟิวเจอร์สคริปโต: เครื่องมือคำนวณมาร์จินและป้องกันความเสี่ยง
- บทนำ
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่มีความน่าสนใจและให้โอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการคำนวณมาร์จินและป้องกันความเสี่ยงบนแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สคริปโต เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- 1. ทำความเข้าใจกับฟิวเจอร์สคริปโต
ฟิวเจอร์สคริปโตคือสัญญาซื้อขายที่ตกลงกันล่วงหน้าเพื่อซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลในราคาและวันที่กำหนดในอนาคต การซื้อขายฟิวเจอร์สช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ
- ตัวอย่าง
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า คุณสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin ในราคาปัจจุบันและขายออกเมื่อราคาเพิ่มขึ้นเพื่อทำกำไร
- 2. มาร์จินคืออะไร?
มาร์จินคือจำนวนเงินที่คุณต้องฝากไว้กับแพลตฟอร์มเพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขายฟิวเจอร์ส มาร์จินช่วยให้คุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินที่คุณมีจริงได้
- ตัวอย่าง
หากคุณต้องการเปิดตำแหน่งซื้อฟิวเจอร์ส Bitcoin มูลค่า $10,000 และแพลตฟอร์มกำหนดมาร์จินไว้ที่ 10% คุณต้องฝากเงิน $1,000 เป็นมาร์จิน
- 3. เครื่องมือคำนวณมาร์จิน
เครื่องมือคำนวณมาร์จินช่วยให้คุณสามารถคำนวณจำนวนมาร์จินที่จำเป็นสำหรับการเปิดตำแหน่งการซื้อขายฟิวเจอร์สได้อย่างแม่นยำ
- ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าคุณต้องการเปิดตำแหน่งซื้อฟิวเจอร์ส Ethereum มูลค่า $5,000 และแพลตฟอร์มกำหนดมาร์จินไว้ที่ 20% คุณต้องคำนวณมาร์จินดังนี้: ``` มาร์จิน = มูลค่าตำแหน่ง x เปอร์เซ็นต์มาร์จิน มาร์จิน = $5,000 x 20% = $1,000 ```
- 4. การป้องกันความเสี่ยง
การป้องกันความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ คุณสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่าง Stop-Loss
หากคุณเปิดตำแหน่งซื้อฟิวเจอร์ส Bitcoin ในราคา $30,000 และตั้ง Stop-Loss ไว้ที่ $28,000 แพลตฟอร์มจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาลดลงถึง $28,000 เพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากขึ้น
- ตัวอย่าง Take-Profit
หากคุณเปิดตำแหน่งซื้อฟิวเจอร์ส Ethereum ในราคา $2,000 และตั้ง Take-Profit ไว้ที่ $2,500 แพลตฟอร์มจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึง $2,500 เพื่อรับกำไร
- 5. เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
- Stop-Loss
Stop-Loss คือคำสั่งที่ช่วยให้คุณกำหนดระดับราคาที่คุณยอมขาดทุนได้ เมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด แพลตฟอร์มจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติ
- Take-Profit
Take-Profit คือคำสั่งที่ช่วยให้คุณกำหนดระดับราคาที่คุณต้องการทำกำไร เมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนด แพลตฟอร์มจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติ
- 6. กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส
การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สได้ที่ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส
- 7. การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส
การจัดการความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์สได้ที่ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส
- สรุป
แพลตฟอร์มฟิวเจอร์สคริปโตมีเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการคำนวณมาร์จินและป้องกันความเสี่ยง การเข้าใจและใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการการซื้อขายฟิวเจอร์สได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการลงทุน
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!