ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ (Correlation)
- ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ (Correlation) ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ “ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์” หรือ Correlation ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด คริปโตเคอร์เรนซี ที่มีความผันผวนสูง การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงและสร้าง พอร์ตการลงทุน ที่มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
- ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์คืออะไร?
ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ (Correlation) คือการวัดระดับความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาสองสินทรัพย์ หรือมากกว่านั้น โดยจะแสดงเป็นค่าตั้งแต่ -1 ถึง +1
- **ค่า Correlation +1:** หมายความว่าสินทรัพย์ทั้งสองเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเสมอ เมื่อสินทรัพย์หนึ่งราคาขึ้น อีกสินทรัพย์หนึ่งก็จะราคาขึ้นไปด้วย
- **ค่า Correlation -1:** หมายความว่าสินทรัพย์ทั้งสองเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามเสมอ เมื่อสินทรัพย์หนึ่งราคาขึ้น อีกสินทรัพย์หนึ่งก็จะราคาลง
- **ค่า Correlation 0:** หมายความว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ทั้งสอง
- การคำนวณค่า Correlation
ค่า Correlation ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ **Pearson Correlation Coefficient** ซึ่งคำนวณจากสูตรดังนี้:
r = Σ[(xi - x̄)(yi - ȳ)] / √[Σ(xi - x̄)² Σ(yi - ȳ)²]
โดยที่:
- r คือ Pearson Correlation Coefficient
- xi คือค่าของสินทรัพย์ที่หนึ่งในแต่ละช่วงเวลา
- x̄ คือค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์ที่หนึ่ง
- yi คือค่าของสินทรัพย์ที่สองในแต่ละช่วงเวลา
- ȳ คือค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์ที่สอง
การคำนวณนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้โปรแกรมสถิติ เช่น Microsoft Excel หรือโปรแกรมเฉพาะทางด้านการเงิน
- ความสำคัญของ Correlation ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี การทำความเข้าใจค่า Correlation มีความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเหตุผลหลายประการ:
1. **การกระจายความเสี่ยง (Diversification):** การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่า Correlation ต่ำ หรือเป็นลบ จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนได้ หากสินทรัพย์หนึ่งราคาตก สินทรัพย์อื่นอาจราคาขึ้นมาชดเชยได้ 2. **การเก็งกำไร (Speculation):** การค้นหาคู่สินทรัพย์ที่มีค่า Correlation สูง สามารถนำมาใช้ในการเก็งกำไรได้ เช่น หาก Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มีค่า Correlation สูง นักลงทุนอาจใช้ข้อมูลราคาของ BTC เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของ ETH 3. **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** การเข้าใจค่า Correlation ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม 4. **การค้นหาโอกาสในการ Arbitrage:** ในบางกรณี ค่า Correlation ที่ผิดปกติอาจบ่งบอกถึงโอกาสในการทำ Arbitrage ซึ่งเป็นการซื้อขายสินทรัพย์เดียวกันในตลาดที่แตกต่างกันเพื่อหากำไรจากส่วนต่างของราคา
- ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin (BTC) และสินทรัพย์อื่นๆ
Bitcoin ซึ่งเป็น คริปโตเคอร์เรนซี ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด มักถูกนำมาใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นๆ ดังนี้:
- **หุ้น (Stocks):** ในช่วงแรก Bitcoin มีค่า Correlation กับหุ้นค่อนข้างต่ำ แต่ในช่วงปี 2020-2021 ค่า Correlation เริ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งอาจเกิดจากความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้ยังคงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
- **ทองคำ (Gold):** ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เช่นเดียวกับ Bitcoin ในบางช่วงเวลา Bitcoin และทองคำมีค่า Correlation ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งบ่งบอกว่านักลงทุนมักจะเข้าซื้อทั้งสองสินทรัพย์เมื่อเกิดความไม่แน่นอนในตลาด
- **พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds):** พันธบัตรรัฐบาลเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกประเภทหนึ่ง โดยทั่วไป Bitcoin มีค่า Correlation ที่ต่ำกับพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งหมายความว่า Bitcoin สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนที่เน้นพันธบัตรได้
- **น้ำมัน (Oil):** ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และราคาน้ำมันมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ในบางช่วงเวลาอาจมีค่า Correlation เป็นบวก ในบางช่วงเวลาอาจเป็นลบ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจโลก และนโยบายการเงิน
- ความสัมพันธ์ระหว่าง Altcoins (คริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ)
Altcoins หรือคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนการลงทุนได้:
- **Ethereum (ETH):** ETH มักมีค่า Correlation ที่สูงกับ BTC เนื่องจากเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดรองลงมา และมักถูกซื้อขายควบคู่กับ BTC
- **Solana (SOL), Cardano (ADA), Polkadot (DOT):** Altcoins เหล่านี้มักมีค่า Correlation ที่สูงกว่ากับ ETH มากกว่า BTC เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract Platforms) ที่แข่งขันกับ ETH
- **Memecoins (เช่น Dogecoin, Shiba Inu):** Memecoins มักมีความผันผวนสูงและมีค่า Correlation ที่ต่ำกับสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งหมายความว่าการลงทุนใน Memecoins มีความเสี่ยงสูง แต่ก็อาจมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน
- ข้อควรระวังในการใช้ Correlation
แม้ว่า Correlation จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ตลาด แต่ก็มีข้อควรระวังที่นักลงทุนควรทราบ:
1. **Correlation ไม่ใช่ Causation:** การที่สินทรัพย์สองอย่างมีความสัมพันธ์กัน ไม่ได้หมายความว่าสินทรัพย์หนึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สินทรัพย์อีกอย่างเคลื่อนไหว 2. **Correlation เปลี่ยนแปลงได้:** ค่า Correlation ไม่ได้คงที่ตลอดเวลา และอาจเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาดและปัจจัยอื่นๆ 3. **Correlation ไม่สามารถทำนายอนาคตได้:** Correlation เป็นเพียงการวัดความสัมพันธ์ในอดีต และไม่สามารถรับประกันว่าความสัมพันธ์นั้นจะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต 4. **การวิเคราะห์ Correlation ควรทำร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** การใช้ Correlation เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
- การใช้ Correlation ในกลยุทธ์การเทรด
Correlation สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดได้หลากหลายรูปแบบ:
- **Pair Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์สองอย่าง โดยการซื้อสินทรัพย์หนึ่งและขายอีกสินทรัพย์หนึ่งเมื่อความสัมพันธ์นั้นเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ย
- **Mean Reversion:** เป็นกลยุทธ์ที่เชื่อว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว โดยใช้ Correlation เพื่อระบุสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่จะกลับสู่ความสัมพันธ์ปกติ
- **Hedging:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยง โดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่า Correlation เป็นลบ
- **Statistical Arbitrage:** เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งใช้แบบจำลองทางสถิติเพื่อหากำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ
- เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ Correlation
มีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลมากมายที่สามารถช่วยนักลงทุนในการวิเคราะห์ Correlation ได้:
- **TradingView:** เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายและวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีเครื่องมือสำหรับการคำนวณ Correlation
- **CoinGecko:** เป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึงข้อมูล Correlation
- **CoinMarketCap:** เป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึงข้อมูล Correlation
- **โปรแกรมสถิติ:** เช่น Microsoft Excel, R, Python สามารถใช้ในการคำนวณ Correlation ได้
- สรุป
ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ (Correlation) เป็นแนวคิดสำคัญที่นักลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีควรทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ Correlation สามารถช่วยให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยง บริหารความเสี่ยง และค้นหาโอกาสในการเก็งกำไรได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระลึกเสมอว่า Correlation ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
- ลิงก์ภายในเพิ่มเติม
- การบริหารความเสี่ยงในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ของคริปโตเคอร์เรนซี
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สำหรับคริปโตเคอร์เรนซี
- กลยุทธ์การเทรด (Trading Strategies) ที่นิยมใช้ในตลาดคริปโต
- การสร้างพอร์ตการลงทุน (Portfolio Construction) ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
- การทำ Arbitrage ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
- ความผันผวน (Volatility) ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
- การจัดการเงินทุน (Money Management) สำหรับเทรดเดอร์คริปโต
- การใช้ Indicators ทางเทคนิค
- Fibonacci Retracement
- Moving Averages
- Bollinger Bands
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD
- การวิเคราะห์ Volume
- Candlestick Patterns
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจสูงสุดถึง 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนเลย |
Bybit Futures | สัญญาแบบย้อนกลับตลอดกาล | เริ่มการซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายโดยการคัดลอก | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญารับประกันด้วย USDT | เปิดบัญชี |
BitMEX | แพลตฟอร์มคริปโต, เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x | BitMEX |
เข้าร่วมชุมชนของเรา
ติดตามช่อง Telegram @strategybin เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม. แพลตฟอร์มทำกำไรที่ดีที่สุด – ลงทะเบียนเลย.
เข้าร่วมกับชุมชนของเรา
ติดตามช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อการวิเคราะห์, สัญญาณฟรี และอื่น ๆ!