กลยุทธ์เลเวอเรจในสัญญาฟิวเจอร์สคริปโต: เพิ่มกำไรด้วยการจัดการมาร์จิน
- กลยุทธ์เลเวอเรจในสัญญาฟิวเจอร์สคริปโต: เพิ่มกำไรด้วยการจัดการมาร์จิน
การซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการการลงทุนดิจิทัล เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงแล้ว ยังมีเครื่องมือสำคัญอย่าง **เลเวอเรจ** ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นการจัดการมาร์จินอย่างเหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจพื้นฐานของ **กลยุทธ์เลเวอเรจในสัญญาฟิวเจอร์สคริปโต** และวิธีเพิ่มกำไรด้วยการจัดการมาร์จินอย่างมีประสิทธิภาพ
---
- สัญญาฟิวเจอร์สคริปโตคืออะไร?
สัญญาฟิวเจอร์สคือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์ (ในที่นี้คือคริปโตเคอร์เรนซี) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ณ วันที่กำหนดในอนาคต ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดการณ์ว่า Bitcoin จะมีราคาเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า คุณสามารถเปิดสัญญาฟิวเจอร์สเพื่อซื้อ Bitcoin ในราคาที่ต่ำกว่าคาดการณ์ได้
ข้อดีของสัญญาฟิวเจอร์สคือคุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง รวมถึงการใช้ **เลเวอเรจ** เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร
---
- เลเวอเรจคืออะไร?
เลเวอเรจคือการยืมเงินจากโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มซื้อขายเพื่อเพิ่มมูลค่าการลงทุนของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เลเวอเรจ 10x และมีเงินทุน 1,000 USD คุณสามารถเปิดตำแหน่งการซื้อขายได้สูงสุดถึง 10,000 USD
- ตัวอย่างการใช้เลเวอเรจ
สมมติคุณเปิดสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin ด้วยเลเวอเรจ 10x โดยมีเงินทุน 1,000 USD หากราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 5% กำไรของคุณจะคำนวณจากมูลค่า 10,000 USD ซึ่งเท่ากับ 500 USD (แทนที่จะเป็น 50 USD หากไม่ใช้เลเวอเรจ)
อย่างไรก็ตาม หากราคาลดลง 5% คุณจะขาดทุน 500 USD ซึ่งอาจทำให้เงินทุนของคุณลดลงเหลือเพียง 500 USD
---
- การจัดการมาร์จินคืออะไร?
มาร์จินคือเงินที่คุณต้องวางไว้เพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขาย เมื่อใช้เลเวอเรจ มาร์จินจะถูกใช้เป็นหลักประกันในการเปิดตำแหน่ง หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับที่คุณคาดการณ์ แพลตฟอร์มอาจทำการ **ล้างพอร์ต (Liquidation)** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
- ตัวอย่างการจัดการมาร์จิน
สมมติคุณเปิดตำแหน่งด้วยเลเวอเรจ 10x และมีเงินทุน 1,000 USD คุณต้องวางมาร์จิน 10% หรือ 100 USD หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามและเงินทุนของคุณลดลงเหลือ 90 USD แพลตฟอร์มจะทำการล้างพอร์ตเพื่อป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติม
---
- กลยุทธ์การใช้เลเวอเรจและจัดการมาร์จิน
1. **เลือกระดับเลเวอเรจที่เหมาะสม**
- เลเวอเรจสูงอาจเพิ่มกำไรได้มาก แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงสูงเช่นกัน สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ (เช่น 2x-5x) เพื่อลดความเสี่ยง
2. **กำหนดจุด Stop-Loss และ Take-Profit**
- Stop-Loss คือการตั้งจุดขายอัตโนมัติเมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด - Take-Profit คือการตั้งจุดขายอัตโนมัติเมื่อทำกำไรถึงระดับที่กำหนด
3. **ติดตามมาร์จินอย่างใกล้ชิด**
- ตรวจสอบมาร์จินและระดับการล้างพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุน
4. **กระจายความเสี่ยง**
- ไม่ควรลงทุนทั้งหมดในสัญญาเดียว ควรกระจายการลงทุนในหลายสัญญาเพื่อลดความเสี่ยง
---
- ตัวอย่างการใช้งานจริง
สมมติคุณมีเงินทุน 2,000 USD และคาดการณ์ว่า Ethereum จะเพิ่มขึ้น 10% ในอีก 1 สัปดาห์
- คุณเปิดสัญญาฟิวเจอร์ส Ethereum ด้วยเลเวอเรจ 5x และมาร์จิน 400 USD - หากราคาเพิ่มขึ้น 10% กำไรของคุณคือ 1,000 USD (2,000 USD x 5x x 10%) - หากราคาลดลง 10% คุณจะขาดทุน 1,000 USD และเงินทุนของคุณจะเหลือ 1,000 USD
---
- สรุป
การใช้เลเวอเรจในสัญญาฟิวเจอร์สคริปโตเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้น การจัดการมาร์จินอย่างเหมาะสมและการใช้เลเวอเรจในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สและการจัดการความเสี่ยง สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!