กลยุทธ์เลเวอเรจฟิวเจอร์ส: เพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยการจัดการมาร์จิน

จาก cryptofutures.trading
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
  1. กลยุทธ์เลเวอเรจฟิวเจอร์ส: เพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยการจัดการมาร์จิน

การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้มากกว่าการซื้อขายปกติ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจพื้นฐานของ "กลยุทธ์เลเวอเรจฟิวเจอร์ส" และวิธีการจัดการมาร์จินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง

    1. ฟิวเจอร์สคริปโตคืออะไร?

ฟิวเจอร์สคริปโตคือสัญญาที่ตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (เช่น Bitcoin, Ethereum) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและในวันที่กำหนดในอนาคต สิ่งที่ทำให้ฟิวเจอร์สแตกต่างจากการซื้อขายปกติคือการใช้ **เลเวอเรจ** ซึ่งช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่กว่าจำนวนเงินที่คุณมีจริง

      1. เลเวอเรจคืออะไร?

เลเวอเรจคือการใช้เงินทุนที่ยืมมาจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน 1,000 USD และใช้เลเวอเรจ 10x คุณสามารถควบคุมการซื้อขายได้มูลค่า 10,000 USD ซึ่งหมายความว่ากำไรหรือขาดทุนของคุณจะคำนวณจากมูลค่า 10,000 USD ไม่ใช่จากเงินทุน 1,000 USD ที่คุณมี

    1. การจัดการมาร์จินคืออะไร?

มาร์จินคือเงินที่คุณต้องวางไว้เป็นหลักประกันเพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขาย เมื่อคุณใช้เลเวอเรจ คุณต้องวางมาร์จินเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตำแหน่งทั้งหมด ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เลเวอเรจ 10x คุณต้องวางมาร์จิน 10% ของมูลค่าตำแหน่ง

      1. ตัวอย่างการจัดการมาร์จิน

สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Bitcoin Futures มูลค่า 10,000 USD ด้วยเลเวอเรจ 10x คุณต้องวางมาร์จิน 1,000 USD (10% ของ 10,000 USD) หากราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 10% คุณจะได้กำไร 1,000 USD (10% ของ 10,000 USD) ซึ่งเท่ากับ 100% ของเงินมาร์จินที่คุณวางไว้

แต่ในทางกลับกัน หากราคา Bitcoin ลดลง 10% คุณจะขาดทุน 1,000 USD ซึ่งเท่ากับคุณเสียเงินมาร์จินทั้งหมดที่วางไว้

    1. กลยุทธ์การจัดการมาร์จิน

การจัดการมาร์จินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต นี่คือกลยุทธ์ที่คุณควรพิจารณา:

      1. 1. กำหนดระดับเลเวอเรจที่เหมาะสม

การใช้เลเวอเรจสูงอาจเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วย คุณควรเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นมือใหม่ อาจเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจ 2x-5x ก่อน

      1. 2. ตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit

Stop-Loss คือการตั้งระดับราคาที่คุณต้องการปิดตำแหน่งเพื่อจำกัดการขาดทุน ในขณะที่ Take-Profit คือการตั้งระดับราคาที่คุณต้องการปิดตำแหน่งเพื่อทำกำไร การใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณควบคุมการซื้อขายได้ดีขึ้น

      1. 3. ตรวจสอบมาร์จินอย่างสม่ำเสมอ

คุณควรตรวจสอบมาร์จินของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกบังคับปิดตำแหน่ง (Liquidation) หากมาร์จินของคุณลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ โบรกเกอร์อาจบังคับปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติ

      1. 4. กระจายความเสี่ยง

อย่าใส่เงินทั้งหมดของคุณในตำแหน่งเดียว การกระจายการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์ช่วยลดความเสี่ยงหากหนึ่งในนั้นเกิดความผันผวน

    1. สรุป

การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตด้วยเลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการทำกำไร แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง การจัดการมาร์จินอย่างมีประสิทธิภาพและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และการจัดการความเสี่ยง สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม คุณสมบัติฟิวเจอร์ส ลงทะเบียน
Binance Futures เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M ลงทะเบียนทันที
Bybit Futures สัญญาถาวรแบบกลับด้าน เริ่มซื้อขาย
BingX Futures การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส เข้าร่วม BingX
Bitget Futures สัญญามาร์จิน USDT เปิดบัญชี

เข้าร่วมชุมชน

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!