แพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส: เครื่องมือช่วยคำนวณมาร์จินและประเมินความเสี่ยง

จาก cryptofutures.trading
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:55, 4 มีนาคม 2568 โดย Admin (คุย | ส่วนร่วม) (เผยแพร่บทความใน th (คุณภาพ: 0.80))
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
  1. แพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส: เครื่องมือช่วยคำนวณมาร์จินและประเมินความเสี่ยง

การซื้อขายฟิวเจอร์สในตลาดคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน เพื่อให้การซื้อขายฟิวเจอร์สมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น การใช้เครื่องมือช่วยคำนวณมาร์จินและประเมินความเสี่ยงบนแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สจึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้จักและเข้าใจ

    1. มาร์จินคืออะไร?

มาร์จิน (Margin) คือจำนวนเงินที่คุณต้องวางเป็นหลักประกันเพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขายฟิวเจอร์ส มาร์จินมีสองประเภทหลักคือ **มาร์จินเริ่มต้น (Initial Margin)** และ **มาร์จินบำรุงรักษา (Maintenance Margin)**

- **มาร์จินเริ่มต้น**: จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องมีในบัญชีเพื่อเปิดตำแหน่งใหม่ - **มาร์จินบำรุงรักษา**: จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องรักษาไว้ในบัญชีเพื่อคงตำแหน่งไว้ หากมูลค่าบัญชีต่ำกว่านี้ อาจถูกบังคับปิดตำแหน่ง (Liquidation)

      1. ตัวอย่างการคำนวณมาร์จิน

สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Bitcoin Futures ที่มีราคา $30,000 ต่อ Bitcoin และคุณต้องการเปิดตำแหน่งขนาด 1 BTC ด้วยเลเวอเรจ 10x

- มาร์จินเริ่มต้น = ราคาสินทรัพย์ / เลเวอเรจ - มาร์จินเริ่มต้น = $30,000 / 10 = $3,000

ดังนั้น คุณต้องมีเงิน $3,000 ในบัญชีเพื่อเปิดตำแหน่งนี้

    1. ความเสี่ยงและเครื่องมือประเมินความเสี่ยง

การซื้อขายฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากคุณสามารถขาดทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่ลงทุน เครื่องมือประเมินความเสี่ยงช่วยให้คุณเข้าใจและจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ได้ดีขึ้น

      1. 1. **เครื่องมือคำนวณมาร์จิน**

แพลตฟอร์มฟิวเจอร์สส่วนใหญ่จะมีเครื่องมือคำนวณมาร์จินที่ช่วยให้คุณทราบจำนวนเงินที่ต้องวางเป็นมาร์จินสำหรับตำแหน่งที่คุณต้องการเปิด เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      1. 2. **เครื่องมือประเมินความเสี่ยง**

เครื่องมือประเมินความเสี่ยงช่วยให้คุณทราบว่าตำแหน่งของคุณมีความเสี่ยงต่อการถูกบังคับปิดตำแหน่ง (Liquidation) หรือไม่ เครื่องมือนี้จะคำนวณความเสี่ยงโดยพิจารณาจากราคาสินทรัพย์ มาร์จิน และเลเวอเรจที่คุณใช้

      1. 3. **Stop-Loss และ Take-Profit**

การใช้คำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit เป็นวิธีที่ดีในการจัดการความเสี่ยง Stop-Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนโดยการปิดตำแหน่งเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด ในขณะที่ Take-Profit ช่วยให้คุณทำกำไรเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนด

      1. ตัวอย่างการประเมินความเสี่ยง

สมมติว่าคุณเปิดตำแหน่ง Long Bitcoin Futures ที่ราคา $30,000 ด้วยเลเวอเรจ 10x และคุณตั้ง Stop-Loss ที่ $29,000

- จำนวนเงินที่คุณเสี่ยง = ราคาเปิด - ราคา Stop-Loss = $30,000 - $29,000 = $1,000 - เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง = ($1,000 / $3,000) * 100 = 33.33%

ดังนั้น คุณเสี่ยงที่จะสูญเสีย 33.33% ของมาร์จินเริ่มต้นหากราคาลดลงถึงระดับ Stop-Loss

    1. กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส

การซื้อขายฟิวเจอร์สต้องการกลยุทธ์ที่ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส เป็นหัวข้อที่คุณควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะการซื้อขาย

    1. การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายฟิวเจอร์ส การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการป้องกันและลดความเสี่ยงในการซื้อขาย

    1. บทสรุป

การใช้แพลตฟอร์มฟิวเจอร์สที่มีเครื่องมือช่วยคำนวณมาร์จินและประเมินความเสี่ยงจะช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น การคำนวณมาร์จินและการประเมินความเสี่ยงเป็นทักษะพื้นฐานที่นักลงทุนทุกคนควรมี เพื่อให้สามารถจัดการกับความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายฟิวเจอร์ส

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม คุณสมบัติฟิวเจอร์ส ลงทะเบียน
Binance Futures เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M ลงทะเบียนทันที
Bybit Futures สัญญาถาวรแบบกลับด้าน เริ่มซื้อขาย
BingX Futures การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส เข้าร่วม BingX
Bitget Futures สัญญามาร์จิน USDT เปิดบัญชี

เข้าร่วมชุมชน

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!