แพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต: คุณสมบัติสนับสนุนการป้องกันความเสี่ยง

จาก cryptofutures.trading
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:46, 1 มีนาคม 2568 โดย Admin (คุย | ส่วนร่วม) (เผยแพร่บทความใน th (คุณภาพ: 0.80))
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
  1. แพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโต: คุณสมบัติสนับสนุนการป้องกันความเสี่ยง

การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัล แต่การลงทุนประเภทนี้ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นการเข้าใจและใช้คุณสมบัติต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    1. ฟิวเจอร์สคริปโตคืออะไร?

ฟิวเจอร์สคริปโตคือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ให้คุณสามารถซื้อหรือขายคริปโตเคอร์เรนซีในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ณ วันที่กำหนดในอนาคต ต่างจากการซื้อขายสปอต (ซื้อขายทันที) ที่คุณต้องจ่ายเงินและรับสินทรัพย์ทันที ฟิวเจอร์สช่วยให้คุณสามารถเก็งกำไรจากทิศทางราคาในอนาคตได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง

ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดการณ์ว่าราคาบิตคอยน์ (BTC) จะเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า คุณสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส BTC ในราคาปัจจุบันและขายมันในอนาคตเมื่อราคาสูงขึ้นเพื่อทำกำไร

    1. คุณสมบัติสนับสนุนการป้องกันความเสี่ยง
      1. 1. **การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit**

Stop-Loss และ Take-Profit เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยควบคุมความเสี่ยงและกำหนดเป้าหมายกำไร Stop-Loss จะปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณไม่ต้องการ เพื่อจำกัดการขาดทุน ในขณะที่ Take-Profit จะปิดออเดอร์เมื่อราคาไปถึงจุดที่คุณต้องการทำกำไร

ตัวอย่าง: คุณซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส BTC ที่ราคา $30,000 และตั้ง Stop-Loss ที่ $29,500 เพื่อจำกัดการขาดทุนไม่เกิน $500 หากราคาลดลง และตั้ง Take-Profit ที่ $32,000 เพื่อทำกำไร $2,000

      1. 2. **การยืน Leverage**

Leverage คือการยืมเงินจากแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มขนาดการลงทุนของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากกว่าการลงทุนด้วยเงินตนเอง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วย แพลตฟอร์มส่วนใหญ่ให้คุณเลือก Leverage ได้ตั้งแต่ 1x ถึง 100x

ตัวอย่าง: หากคุณมีเงิน $1,000 และใช้ Leverage 10x คุณสามารถเปิดสัญญามูลค่า $10,000 ได้ หากราคาเพิ่มขึ้น 2% คุณจะทำกำไร $200 (20% ของเงินต้น) แต่หากราคาลดลง 2% คุณจะขาดทุน $200

      1. 3. **การทำ Hedging**

Hedging คือกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยการเปิดตำแหน่งที่ตรงข้ามกับตำแหน่งที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณถือครองบิตคอยน์และกังวลว่าราคาอาจลดลง คุณสามารถเปิดสัญญาฟิวเจอร์สขายบิตคอยน์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน

      1. 4. **การแจ้งเตือน (Alerts)**

แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีระบบแจ้งเตือนที่ช่วยให้คุณติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ตลอดเวลา คุณสามารถตั้งค่าให้แพลตฟอร์มแจ้งเตือนเมื่อราคาไปถึงจุดที่คุณสนใจ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ทันที

    1. ตัวอย่างการป้องกันความเสี่ยง

สมมติว่าคุณซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส BTC ที่ราคา $30,000 และตั้ง Stop-Loss ที่ $29,000 โดยใช้ Leverage 5x หากราคาลดลงถึง $29,000 แพลตฟอร์มจะปิดออเดอร์อัตโนมัติ เพื่อจำกัดการขาดทุนของคุณไม่เกิน $1,000 ในทางกลับกัน หากราคาเพิ่มขึ้นถึง $32,000 คุณสามารถปิดออเดอร์เพื่อทำกำไร $2,000

    1. สรุป

การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูง การใช้คุณสมบัติต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น Stop-Loss, Take-Profit, Leverage และ Hedging จะช่วยให้คุณสามารถจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการลงทุนจำนวนน้อยและใช้ Leverage ต่ำ เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกลไกการทำงานของฟิวเจอร์สก่อนที่จะเพิ่มขนาดการลงทุน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส และ การจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส เพื่อพัฒนาทักษะการลงทุนของคุณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ

แพลตฟอร์ม คุณสมบัติฟิวเจอร์ส ลงทะเบียน
Binance Futures เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M ลงทะเบียนทันที
Bybit Futures สัญญาถาวรแบบกลับด้าน เริ่มซื้อขาย
BingX Futures การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส เข้าร่วม BingX
Bitget Futures สัญญามาร์จิน USDT เปิดบัญชี

เข้าร่วมชุมชน

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!