ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มกับการเฮดจ์ความเสี่ยงฟิวเจอร์ส: สิ่งที่ต้องรู้
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มกับการเฮดจ์ความเสี่ยงฟิวเจอร์ส: สิ่งที่ต้องรู้
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคาได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง อย่างไรก็ดี การเข้าสู่ตลาดฟิวเจอร์สจำเป็นต้องเข้าใจปัจจัยสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะ **ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม** และ **การเฮดจ์ความเสี่ยง** ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จในการซื้อขาย ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ
---
- ฟิวเจอร์สคริปโตคืออะไร?
ฟิวเจอร์ส (Futures) คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ตกลงกันว่าจะซื้อหรือขายสินทรัพย์ในวันที่กำหนดในอนาคต ในกรณีของคริปโต ฟิวเจอร์สช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้ โดยไม่ต้องถือครองเหรียญจริง เช่น คุณสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin โดยคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น หรือขายสัญญาถ้าคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง
---
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม: สิ่งที่ต้องรู้
เมื่อคุณซื้อขายฟิวเจอร์สบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Binance, Bybit หรือ OKX คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนหลัก:
1. **ค่าธรรมเนียมการเปิด/ปิดสัญญา (Taker/Maker Fees)**
- **Taker Fee**: ค่าธรรมเนียมที่จ่ายเมื่อคุณเปิดหรือปิดสัญญาด้วยการจับคู่คำสั่งที่มีอยู่ในตลาด - **Maker Fee**: ค่าธรรมเนียมที่จ่ายเมื่อคุณเปิดหรือปิดสัญญาด้วยการเพิ่มคำสั่งใหม่เข้าไปในตลาด - ตัวอย่าง: ถ้าคุณเปิดสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin ด้วยการจับคู่คำสั่งที่มีอยู่ (Taker) คุณอาจเสียค่าธรรมเนียม 0.05% ของมูลค่าสัญญา
2. **ค่าธรรมเนียมการเก็บรักษา (Funding Fee)**
- ค่าธรรมเนียมที่จ่ายทุกๆ ช่วงเวลา (เช่น ทุก 8 ชั่วโมง) เพื่อรักษาสัญญาเปิดไว้ ค่านี้ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและความต้องการในตลาด - ตัวอย่าง: ถ้าคุณถือสัญญาเปิดไว้ 1 วัน และ Funding Rate คือ 0.01% คุณอาจเสียค่าธรรมเนียมนี้ 3 ครั้งต่อวัน
- เคล็ดลับ:** เลือกแพลตฟอร์มที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้ใหม่ เพื่อลดต้นทุนการซื้อขาย
---
- การเฮดจ์ความเสี่ยงกับฟิวเจอร์ส
- การเฮดจ์ความเสี่ยง (Hedging)** คือการใช้สัญญาฟิวเจอร์สเพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสียที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคา ตัวอย่างเช่น:
- ถ้าคุณถือ Bitcoin ไว้และกังวลว่าราคาอาจลดลง คุณสามารถเปิดสัญญาขายฟิวเจอร์ส Bitcoin เพื่อล็อคราคาไว้ได้ - หากราคา Bitcoin ลดลง ขาดทุนจากการถือเหรียญจะถูกชดเชยด้วยกำไรจากสัญญาฟิวเจอร์ส
- ตัวอย่างจริง:**
สมมติว่าคุณถือ Bitcoin 1 เหรียญ ที่ราคา $30,000 และเปิดสัญญาขายฟิวเจอร์ส 1 สัญญา (มูลค่า $30,000) - หากราคา Bitcoin ลดลงเหลือ $28,000 คุณจะขาดทุน $2,000 จากเหรียญที่ถือ แต่ได้กำไร $2,000 จากสัญญาฟิวเจอร์ส - หากราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น $32,000 คุณจะได้กำไร $2,000 จากเหรียญที่ถือ แต่ขาดทุน $2,000 จากสัญญาฟิวเจอร์ส
---
- สิ่งที่มือใหม่ต้องระวัง
1. **ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ (Leverage)**
การใช้เลเวอเรจสูงสามารถเพิ่มกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงของการขาดทุนอย่างรวดเร็วเช่นกัน ควรใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง
2. **การจัดการเงิน (Money Management)**
กำหนดงบประมาณและแผนการซื้อขายที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เสียเงินเกินกว่าที่คุณสามารถรับได้
3. **เรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขาย**
ศึกษากลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส เพื่อพัฒนาทักษะและเข้าใจรูปแบบตลาด
---
- สรุป
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ **ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม** และ **การเฮดจ์ความเสี่ยง** ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลกำไร เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงฟิวเจอร์ส เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง
---
แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สที่แนะนำ
แพลตฟอร์ม | คุณสมบัติฟิวเจอร์ส | ลงทะเบียน |
---|---|---|
Binance Futures | เลเวอเรจ 125x, สัญญา USDⓈ-M | ลงทะเบียนทันที |
Bybit Futures | สัญญาถาวรแบบกลับด้าน | เริ่มซื้อขาย |
BingX Futures | การซื้อขายแบบคัดลอกสำหรับฟิวเจอร์ส | เข้าร่วม BingX |
Bitget Futures | สัญญามาร์จิน USDT | เปิดบัญชี |
เข้าร่วมชุมชน
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @strategybin เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม แพลตฟอร์มคริปโตที่ทำกำไรสูงสุด - ลงทะเบียนที่นี่
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram @cryptofuturestrading เพื่อรับการวิเคราะห์ สัญญาณฟรี และอื่นๆ!